ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้(KDCA) แถลงเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่ามาตรการบังคับให้ประชาชนแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือ Vaccine Passport หรืออนุญาตเฉพาะประชาชนที่มีผลตรวจเป็นลบเข้าไปในสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงเรียนกวดวิชาและร้านอินเตอร์เน็ตเริ่มมีผลบังคับแล้วตั้งแต่วันนี้ (13 ธันวาคม)ไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2565 หลังสิ้นสุดเวลาผ่อนผันให้ประชาชนปรับตัวมาหนึ่งสัปดาห์
ในกรณีฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว เจ้าของร้านจะถูกปรับ 1.5 ล้านวอน (หรือ 42,057 บาท) กรณีทำความผิดซ้ำ ค่าปรับจะเพิ่มเป็น 3 ล้านวอน(หรือ 84,971 บาท) และกรณีพบการฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวมากกว่า 4 ครั้ง หน่วยงานฝ่ายปกครองท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ร้านดังกล่าวปิดกิจการอย่างถาวร ส่วนประชาชนทั่วไปที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบดังกล่าวจะถูกสั่งให้เสียค่าปรับเป็นครั้งๆไป โดยให้จ่ายค่าปรับครั้งละ 100,000 วอน (หรือ 2,832 บาท)
มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการควบคุมโรคของเกาหลีใต้ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งในปัจจุบัน เกาหลีใต้ อนุญาตให้ประชาชนในกรุงโซลและเขตปริมณฑลรวมกลุ่มในสถานที่สาธารณะไม่เกิน 6 คนและให้ประชาชนในจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศรวมกลุ่มไม่เกิน 8 คน พร้อมทั้งลดระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่สองกับเข็มที่สามในโครงการวัคซีนบูสเตอร์ให้ห่างกันเพียง 3 เดือนจากเดิมห่างกัน 6 เดือน เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโอไมครอน
ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดในวันนี้ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยรายใหม่ 5,817 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 523,088 คน เสียชีวิต 4,293 ราย สำหรับเชื้อไวรัสโอไมครอน เกาหลีใต้ ในวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่อีก 24 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมจากไวรัสโอไมครอนของเกาหลีใต้อยู่ที่ 114 คน ประชาชน 41.69 ล้านคน หรือร้อยละ 81.2 ของประชากร 52 ล้านคน รับวัคซีนครบโดสแล้ว
#เกาหลีใต้
#โครงการวัคซีนพาสปอร์ต