องค์การอนามัยโลก(WHO) เปิดเผยในแถลงการณ์สรุปข้อมูลเชิงเทคนิคเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโอไมครอนว่า จากข้อมูลต่างๆที่ WHO มีอยู่ในขณะนี้ ชี้ว่า ไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาดเร็วกว่าเดลตา และมีแนวโน้มว่า เชื้อไวรัสโอไมครอนจะแพร่ระบาดในชุมชนในอัตราเร็วกว่าด้วย และในอนาคต จำนวนคนไข้จากไวรัสโอไมครอนจะมีจำนวนมากกว่าคนไข้จากไวรัสเดลตา โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในปัจจุบัน มีจำนวนคนไข้จากไวรัสเดลตาไม่มาก และในอังกฤษ ในขณะนี้เชื้อไวรัสเดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ทั่วประเทศ
ในเรื่องวัคซีน WHO ระบุว่า วัคซีนในปัจจุบันไม่อาจป้องกันเชื้อไวรัสโอไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อาการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสโอไมครอนส่วนใหญ่ไม่หนักมาก เมื่อเทียบกับเดลตา ผู้ป่วยจากไวรัสโอไมครอนส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือ เจ็บป่วยเล็กน้อย ขณะที่บริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนสหรัฐฯ-เยอรมนี ระบุว่า การฉีดวัคซีนครบสามเข็มจะช่วยป้องกันเชื้อไวรัสโอไมครอน
ไวรัสเดลตา พบครั้งแรกในอินเดียเมื่อช่วงต้นปีนี้ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่การที่แอฟริกาใต้ค้นพบเชื้อไวรัสโอไมครอนเมื่อเดือนที่แล้ว มีลักษณะแตกต่างจากสายพันธุ์ก่อนๆอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนหนามแหลมของเชื้อไวรัสหลายจุด สร้างความวิตกกังวลให้กับทั่วโลก หลายประเทศสั่งห้ามประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเช่น แอฟริกาใต้ เดินทางเข้าประเทศ พร้อมทั้งจำกัดการเดินทางในประเทศ เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
ในปัจจุบัน เชื้อไวรัสโอไมครอน ระบาดไปยังประเทศต่างๆราว 63 ประเทศ ขณะที่ ประเทศร่ำรวยซึ่งมีวัคซีนจำนวนมาก เช่น อังกฤษและฝรั่งเศส รณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนบูสเตอร์หรือวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อป้องกันไวรัสโอไมครอน
#WHO
#ไวรัสโอไมครอน