นายโจ ฟาห์ลา รัฐมนตรีสาธารณสุขแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ไม่พบสัญญาณบ่งชี้ว่าไวรัสโอไมครอนจะทำให้คนไข้ทรุดหนักกว่าเดิม ข้อมูลจากโรงพยาบาลในแอฟริกาใต้บ่งชี้ว่า ในระยะนี้ จำนวนคนไข้ใหม่ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นในท้องที่ต่างๆมากกว่าครึ่งหนึ่งจากพื้นที่รวม 9 จังหวัดของแอฟริกาใต้
แต่อัตราการเสียชีวิตลดลงจากเดิมค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับการระบาดของไวรัสเดลตา ทั้งอัตราการนอนโรงพยาบาลของคนไข้เฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลางคือ 2.8 วัน จากตัวเลขเดิม 8.5 วัน ซึ่งน่าจะทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งอกพอสมควร
ขณะเดียวกัน นพ.นิโคลัส คริสพ์ รองอธิบดีกรมอนามัยของแอฟริกาใต้แถลงเรื่องโครงการวัคซีนบูสเตอร์ด้วยวัคซีนไฟเซอร์สำหรับคนที่รับวัคซีนเข็มที่สองมาแล้ว 6 เดือน ระบุว่าแอฟริกาใต้ได้นัดหมายคนไข้กลุ่มแรกๆให้เข้ารับวัคซีนบูสเตอร์ปลายเดือนนี้ ทั้งจะใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นวัคซีนบูสเตอร์สำหรับประชาชนทั่วไปด้วย จากเดิมที่กำหนดให้ใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เฉพาะกับบุคลากรการแพทย์
ก่อนหน้านี้ แอฟริกาใต้แจ้งเตือนทั่วโลกเมื่อเดือนก่อน หลังพบสายพันธุ์โอไมครอน ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนๆ ทั้งอาจจะทำให้โรคโควิด-19 กลับมาระบาดระลอกใหญ่ทั่วโลก แอฟริกาใต้พบผู้ป่วยใหม่ 22,391 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3.09 ล้านคน เสียชีวิต 90,060 ราย ร้อยละ 38 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของแอฟริกาใต้รับวัคซีนครบโดสแล้ว นับเป็นอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงกว่าประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา
#แอฟริกาใต้
#ไวรัสโอไมครอน