สหรัฐตั้งกองทุน 424 ล้านดอลลาร์ ส่งเสริมประชาธิปไตย

         เอเอฟพี รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เปิดประชุมเวที summit for democracy (การประชุมสุดยอดเรื่องประชาธิปไตย) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 2 วัน 9-10 ธันวาคม 2564 มีผู้แทนรัฐบาลจาก 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งเอ็นจีโอ ผู้นำธุรกิจและองค์กรการกุศล ร่วมประชุม โดยนายไบเดนแสดงความเป็นกังวลว่า นักเคลื่อนไหวสิทธิเสรีภาพและการปกครองระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐฯ ถูกคุกคามมาหลายปีแล้ว ตั้งคำถามว่า เราจะปล่อยให้สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ตกต่ำอย่างต่อเนื่องเช่นนี้หรือ

         นายไบเดนขอให้ผู้นำประชาธิปไตยทั่วโลกให้คำมั่นอย่างเป็นรูปธรรม ในการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง นายไบเดนให้คำมั่นจะตั้งกองทุนส่งเสริมประชาธิปไตยมูลค่า 424 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพของสื่ออิสระ การต่อต้านการคอร์รัปชั่นและสนับสนุนการเลือกตั้งอย่างเสรีทั่วโลก

         นายไบเดน มองเรื่องประชาธิปไตยว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกประเทศทั่วโลกควรให้ความสำคัญ ระบุว่า ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยผู้นำที่มีอุดมการณ์เรื่องประชาธิปไตย

         สหรัฐจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย แต่ถูกหลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องรายชื่อประเทศที่สหรัฐฯเชิญเข้าร่วมประชุม โดยหลักเกณฑ์การเชิญประเทศต่างๆเข้าร่วมประชุมคือ จะต้องเป็นประเทศที่ไม่มีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือปัญหาทุจริตการเลือกตั้ง แต่ปรากฎว่าปากีสถานและฟิลิปปินส์ซึ่งถูกครหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนกลับได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมด้วย

         ส่วนในยุโรป รัฐบาลจากพรรคชาตินิยมของฮังการี ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ขณะที่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำฝ่ายขวาของบราซิลได้รับเชิญร่วมประชุม แต่ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอันของตุรกีไม่ได้รับเชิญให้ร่วมประชุม

         ทั้งสหรัฐฯเองก็มีปัญหาวิกฤตทางการเมืองในประเทศ หลังกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกก่อเหตุจลาจลในอาคารสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม เพื่อขัดขวางไม่ให้สภาคองเกรสสหรัฐฯรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายน 2563 หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่า นายทรัมป์อาจจะกลับมาสร้างความปั่นป่วนให้กับการเมืองสหรัฐฯอีกครั้ง ถ้าหากนายทรัมป์ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งหน้าในปี 2024

#สหรัฐฯ

#เวทีประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตย