นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำรัฐบาลทั่วโลกให้ยกระดับการควบคุมโรคโควิด-19 ให้สูงขึ้น รวมทั้งเพิ่มการเฝ้าระวัง การตรวจโรคและตรวจสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโดยละเอียด พร้อมทั้งเร่งกระจายวัคซีนให้คืบหน้ามากขึ้น เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโอไมครอน ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุให้ชัดเจนว่า วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโอไมครอนหรือไม่ เพิ่มเติมว่าการ์ดตกอาจจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนอีกจำนวนมาก
ด้านนายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าไวรัสโอไมครอนแพร่ระบาดเร็วกว่าไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ แนะให้ทั่วโลกทำงานให้มากกว่าเดิมสองเท่า เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอนโดยเร็ว
ส่วนเรื่องผลวิจัยเบื้องต้นจากห้องแล็บของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนสหรัฐฯ-เยอรมนี บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ หรือฉีดวัคซีนครบสามเข็มสามารถต้านเชื้อไวรัสโอไมครอนอย่างมีประสิทธิภาพ พญ.โซเมีย สวามีนาตัน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดอย่างชัดเจนว่า การที่ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง แสดงให้เห็นว่า วัคซีนไม่สามารถต้านเชื้อไวรัสโอไมครอนหรือไม่
ที่ผ่านมา WHO แสดงความกังวลเรื่องปัญหาเหลื่อมล้ำด้านวัคซีนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ร่ำรวยส่วนใหญ่มีความคืบหน้าเรื่องการกระจายวัคซีนจนถึงขั้นเริ่มโครงการวัคซีนบูสเตอร์แล้ว ขณะที่ ประเทศที่มีฐานะยากจนถึงรายได้ปานกลางส่วนใหญ่ โครงการกระจายวัคซีนยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก การรณรงค์ให้ทั่วโลกฉีดวัคซีนให้ครบสองเข็มสำหรับประชากรทั่วโลก ยังเป็นนโยบายสาธารณสุขเร่งด่วนที่ WHO รณรงค์ให้รัฐบาลทั่วโลกดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว
#WHO
#ไวรัสโอไมครอน