หลังจากที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนพดล อุเทน ผอ.กองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้เซฟของบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ที่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่ง ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์หุ้นในบริษัทดังกล่าวรวมมูลค่ากว่า 1,110 ล้านบาท หลังพบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ โอนหุ้นต่อให้กับนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ปปง.เข้าตรวจค้นบริษัทพร้อมอายัดเอกสารสำคัญ และทรัพย์สินบางส่วนไว้ตรวจสอบ รวมถึงตู้เซฟขนาดใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรที่นำมาเปิดในวันนี้ด้วย พบว่าภายในตู้เซฟมีทั้งเอกสารโฉนดที่ดิน สมุดบัญชีเงินฝาก พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน และลูกแก้วสัญลักษณ์วัดพระธรรมกาย เบื้องต้นพบว่าพระเครื่องเป็นพระสมเด็จวัดปากน้ำ รุ่นที่สร้างโดยวัดพระธรรมกายหลายองค์ บรรจุอยู่ในกล่องใส่พระเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจเก็บดีเอ็นและลายพิมพ์นิ้วมือของกลางทุกชิ้นบันทึกไว้เป็นหลักฐานส่งมอบให้ ปปง.ไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า การเปิดเซฟพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับคดียักยอกทรัพย์ฯ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนและทรัพย์สินหลายรายการ รวมถึงสิ่งผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืน5กระบอก ที่ต้องนำไปตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ และมีประวัติเคยนำไปก่อเหตุหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบเอกสารอ้างใช้ชื่อยศ พ.อ.นำหน้าด้วย สำหรับทรัพย์สินที่พบทั้งหมดนิติวิทยาศาสตร์จะเก็บหลักฐานดีเอ็นเอเพื่อทำบันทึกส่งให้ ปปง. จัดทำบัญชีและตรวจสอบดำเนินคดี ซึ่งหลักฐานที่พบอาจเชื่อมโยงถึงบุคคลที่ร่วมกระทำผิดรายอื่นเพิ่มเติม นอกจากนี้จะเสนอให้เลขาธิการ ปปง. แต่งตั้งเจ้าหน้าที่เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอเพื่อดำเนินคดีกับนายสถาพรด้วย พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวถึง ประวัติของนายสถาพรว่า มีประวัติเคยบวชเป็นเณรที่วัดพระธรรมกายต่อเนื่องมานานกว่า20ปี กระทั่งปี2554จึงสึกออกมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่านายสถาพร มีความสนิทสนมกับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายระดับใด
ด้านนายนพดล กล่าวว่า ปปง.ตรวจสอบข้อมูลการรายงานธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สินของนายศุภชัย พบว่าเมื่อปี2553 มีการโอนเงินให้นายสถาพร เป็นเงิน127 ล้านบาท และระหว่างปี2554-2555ได้โอนให้บริษัท เอส.ดับบลิวฯ เป็นเงิน 124 ล้านบาทสำหรับสมุดบัญชี3เล่มที่พบในตู้เซฟ เป็นสมุดบัญชีชื่อนายสถาพร1เล่ม อีก2เล่มเป็นชื่อบริษัท ก่อนหน้านี้มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า27ล้านบาท แต่ถูกทยอยถอนออกไปตั้งแต่ปี2556ล่าสุดพบว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียง30,000บาท เท่านั้น