สบส.เผย นักเรียนกว่าร้อยละ 68 มีพฤติกรรมเสี่ยงจากรับประทานอาหารร่วมกัน

04 ธันวาคม 2564, 11:08น.


          นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ลดลง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ด้วยความกังวลในโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” (Omicron) ประกอบกับการเปิดภาคเรียนของเด็กนักเรียน ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการรวมกลุ่มของนักเรียน อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ 


          จากการเก็บข้อมูลจากนักเรียนที่กำลังศึกษาระดับมัธยม ซึ่งมีพฤติกรรมล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกันกับเพื่อน และคนในครอบครัว ใน 19 จังหวัด จำนวน 14,387 คน ระหว่างวันที่ 1-25 พฤศจิกายน 2564 โดยกองสุขศึกษา กรม สบส.พบความคิดเห็น 5 อันดับแรก ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักเรียนเลือกรับประทานอาหารร่วมกัน ดังนี้


1) เป็นวัฒนธรรมที่เคยชิน ร้อยละ 68.47 


2) เป็นคนใกล้ชิด ร้อยละ 68.19


3) เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ร้อยละ 63.57


4) ประเภทอาหารที่กินเอื้อต้องให้กินร่วมกัน ร้อยละ 56.82 


5) กินอาหารร่วมกันช่วยเพิ่มความสนุกสนาน ร้อยละ 53.87 


          อาหารที่นักเรียนส่วนใหญ่รับประทานร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว ได้แก่ หมูกระทะ สุกี้ ร้อยละ 56.8 ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 


          กุญแจสำคัญในการผลักดันให้เยาวชนเกิดการปรับเปลี่ยนความคิดเห็น ลด ละ เลิก แนวคิด ในการร่วมวงรับประทานอาหารร่วมกันนั้น ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา และครอบครัว จะต้องร่วมให้ความรู้ ความเข้าใจ ถึงความเสี่ยง และอันตรายจากการรับประทานอาหารร่วมกันที่อาจจะทำให้มีการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 


      มีการปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่าง พร้อมแนะนำวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ให้นักเรียน/บุตร หลาน มีการเว้นระยะห่างในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน ล้างมือให้สะอาด รับประทานอาหารสุกใหม่ และแยกสำรับอาหารเฉพาะแต่ละคน เกิดการตั้งสติคิดว่าทุกคนคือผู้ติดเชื้อ จนนักเรียน/บุตร หลาน มีการปรับเปลี่ยนความคิดเห็น และพฤติกรรมสุขภาพให้ถูกต้องเหมาะสมกับวิถีชีวิตใหม่ที่ห่างไกลโรคโควิด-19


....


ที่มา fb กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข


#สบส


#โควิด19
ข่าวทั้งหมด

X