กทม.เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขป้องกันโควิดโอไมครอน

02 ธันวาคม 2564, 17:03น.


          นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ในหลายประเทศและประเทศไทยมีคำสั่งระงับการเดินทางของผู้ที่มาจากประเทศที่มีการระบาด ในส่วนของกรุงเทพมหานครได้ติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยสำนักอนามัยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวัง รวมถึงปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรจากทวีปแอฟริกา โดยมีการเพิ่มจำนวนวันกักตัว วันคุมไว้สังเกตและการห้ามเข้าประเทศ และต้องตรวจ RT-PCR 3 ครั้ง วันที่ 0-1 , 5-6 , 12-13



          นอกจากนี้ จะจัดเจ้าหน้าที่สำรวจชุมชนที่มีชาวแอฟริกันอาศัยอยู่ หากมีผู้เดินทางเข้ามาใหม่จำเป็นต้องกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในชุมชนร่วมกันสอดส่องดูแล ไม่ให้มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยโดยพลการ



          นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมเรื่องระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการระบาดระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็ว และเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงการยกระดับแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่กรุงเทพฯ



          ส่วนสำนักการแพทย์ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร กำหนด และมีความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพการ Swab และให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งเข็ม 1 เข็ม 2 และเข็ม 3 อย่างเต็มกำลังและทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย



          เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ทั้งตัวเอง และครอบครัว กทม.ขอให้ประชาชนปฏิบัติตนตามแนวคิดเรื่องการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) 10 ข้อ ดังนี้



1. ออกจากบ้านเมื่อจําเป็นเท่านั้น



2. เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่



3. สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน



4. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอจาม หรือสัมผัสวัตถุ/สิ่งของ ที่ใช้ร่วมกัน



5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จําเป็น



6. ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จําเป็น(น้อยครั้งและใช้เวลาสั้นที่สุด)



7. ทําความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ



8. แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น



9. เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสํารับ หากทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว



10. หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ที่อาจติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK บ่อย ๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน



          ในส่วนของผู้ประกอบการ แนะนำให้ดำเนินการตามมาตรการ COVID-Free Setting ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ



1. Covid Free Environment ด้านสิ่งแวดล้อมปลอดโควิด องค์กรต่างๆ มีระบบระบายอากาศ สุขอนามัย สะอาดปลอดภัย เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมทุก 1-2 ชั่วโมง



2. Covid Free Personnel ด้านผู้ประกอบการ/พนักงานปลอดโควิด ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ คัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยระบบไทยเซฟไทย และตรวจ ATK ทุกสัปดาห์



3. Covid Free Customer ด้านผู้ใช้บริการ/ลูกค้าปลอดโควิด ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด และแสดง green card สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือแสดง yellow card สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อ หรือมีผล ATK เป็นลบภายใน 7 วัน



....



#กรุงเทพมหานคร



#โควิดโอไมครอน

ข่าวทั้งหมด

X