การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.ในวันนี้ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม มีวาระที่ต้องติดตามคือการพิจารณาถอดถอนอดีตสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 38 คน ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 จากกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่มาของสว.โดยมิชอบ ซึ่งมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช.เป็นผู้ชี้มูลความผิดและส่งเรื่องมาให้สนช.พิจารณา โดยขั้นตอนการแถลงเปิดคดีนั้นจะเหมือนกับคดีของนาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนาย นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ซึ่งตัวแทนปปช.โดยนาย วิชัย วิวิตเสวี คณะกรรมการปปช.ในฐานะผู้กล่าวหาจะเป็นผู้แถลงเปิดคดีก่อน จากนั้นจะให้ตัวแทนผู้ถูกกล่าวหาได้แถลงเปิดคดีเพื่อโต้แย้ง โดยจะมีตัวแทน 5 คนเป็นผู้แถลงเช่น นาย ดิเรก ถึงฝั่ง อดีตส.ว.นนทบุรี นาย สิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีตส.ว.อุทัยธานี จากนั้นจะเป็นการพิจารณาประเด็นซักถามตามญัตติของสมาชิกสนช.พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการซักถามขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อรวบรวมญัตติซักถามจากสมาชิกและนำไปซักถามคู่กรณีทั้งสองต่อไป นอกจากนี้ยังมีวาระกระทู้ถามทั่วไปของ นาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช.ที่ตั้งถามนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ และการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอีกกว่า 4 ฉบับที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอด้วย
โดยก่อนการแถลงเปิดคดี นาย ดิเรก ระบุว่า ตัวเองพร้อมชี้แจงในทุกข้อหา ยืนยันว่าตัวเองและสมาชิกทำหน้าที้ไปตามกฎหมาย บนพื้นฐานรัฐธรรมนูญและหน้าที่ของรัฐสภา และได้ขอสำรองผู้ชี้แจงเพิ่มเติมอีก 1 คนเพื่อตอบข้อซักถามที่อาจสงสัย แต่ไม่ทราบว่าที่ประชุมจะอนุญาตให้ชี้แจงหรือไม่ ส่วนที่จะชี้แจง 5 คนนั้นได้มีการแบ่งประเด็นการชี้แจงไว้แล้ว โดยจะไม่โต้เถียงและชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง ยอมรับว่ากังวลต่อการถอดถอน เพราะหากมีมติถอดถอนจริง ตัวเองและผู้ที่อยู่ในสนช.และสปช.ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที อย่างไรก็ดีขอให้รอฟังข้อเท็จจริงและการลงมติอีกครั้ง ส่วนสมาชิกอีก 30 คนจะเข้ามาร่วมฟังในคดีด้วย
ด้าน นาย พีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. ก็ระบุว่า การประชุมจะใช้ข้อบังคับการประชุมสนช.เช่นเดียวกับการถอดถอนนาย นิคม และสมศักดิ์ และทราบมาว่าหนึ่งในสมาชิกสนช.ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกพิจารณาถอดถอนด้วยนั้นจะขอลาการประชุมในวันนี้และวันลงมติ แม้ว่าตามข้อบังคับจะมีสิทธิเข้าฟังได้ก็ตาม ซึ่งจะมีการลงมติในวันที่ 13 มีนาคม 2558 โดยหากมีการถอดถอนจริง อดีตสว.ที่ดำรงตำแหน่งทั้งในสปข.และสนช.จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที แต่หากไม่มีการถอดถอนก็จะดำรงตำแหน่งได้ตามปกติ