สถาบันควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ(NICD)ของแอฟริกาใต้ หน่วยงานวิจัยที่รวบรวมข้อมูลเรื่องโรคระบาด รวมทั้งศึกษาวิจัยพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยของ NICD พบว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนสามารถจะหลบเลี่ยงภูมิต้านทานในร่างกายได้เพียงบางส่วน ทำให้ผู้ติดเชื้อไวรัสเจ็บป่วย แต่นักวิจัยของแอฟริกาใต้มั่นใจว่า วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพสูงพอที่ยับยั้งอาการเจ็บป่วยไม่ให้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ข้อมูลจากการวิเคราะห์เชื้อไวรัสเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยทีมนักวิจัยได้เก็บตัวอย่างจากคนไข้โควิด-19 จากจังหวัดเคาเต็ง ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของแอฟริกาใต้ นครโยฮันเนสเบิร์กและกรุงพริทอเรีย ทีมวิจัยของแอฟริกาใต้พบว่า ร้อยละ 74 ของคนไข้ 249 คน ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เชื่อว่า เชื้อไวรัสโอไมครอนอาจจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ในอนาคต แซงหน้าสายพันธุ์เดิมคือ เดลตา
นับเป็นข้อมูลล่าสุดจากแอฟริกาใต้ ซึ่งในปัจจุบัน พบเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในพื้นที่ 5 จังหวัดจากทั้งหมด 9 จังหวัดของแอฟริกาใต้
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยของแอฟริกาใต้พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอไมครอนในแอฟริกาใต้และเพื่อนบ้านในแถบตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อมา หลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ เบลเยียม อิสราเอล เกาหลีใต้และออสเตรเลีย พบคนไข้จากสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกๆเช่นเดียวกัน รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย มีคำสั่งห้ามประชาชนจากแอฟริกาใต้และเพื่อนบ้าน 7 ประเทศ เช่น บอตสวานา, เอสวาตินี, เลโซโท,มาลาวี,โมซัมบิก, นามิเบีย และซิมบับเว เดินทางเข้าประเทศชั่วคราว เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
#แอฟริกาใต้
#ไวรัสโอไมครอน