*เลื่อนเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ตั้งคณะกก.ร่วม/ร่างภาษีที่ดินใหม่*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.

+++หลังรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลื่อนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ออกไปก่อน สรุปว่า แก้กฎหมายก่อนถึงจะทำอะไรได้ โดยการแก้กฎหมายนั้นต้องไปดูว่ามีข้อขัดข้องตรงไหน เร็วที่สุดน่าจะใช้เวลา 3 เดือน  คณะกรรมการของรัฐบาลมอบให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับผิดชอบอยู่ ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากันฝ่ายละ 6 คน ฝ่ายกระทรวงพลังงานเสนอรายชื่อ 6 คน คือ 1.นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าทีม 2.นายพล ธีรคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 3.นาย มนูญ ศิริวรรณ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน 4.นายประภาส คงเอียด ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงการคลัง 5.นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อดีตอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 6.นายรักไทย บูรพ์ภาค อาจารย์พิเศษวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี สถาบันเอ็มไอที

+++ฝ่ายเห็นต่างประกอบด้วย 1.น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าทีม 2.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระ 3.น.ส.รสนา โตสิตระกูล สปช.ด้านพลังงาน 4.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5.นายวิวัฒน์ชัย อัตถากร นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และสุดท้ายยังไม่ยืนยันแต่แจ้งชื่อเป็นนายนพ สัตยาสัย อดีตอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ คณะทำงานร่วมชุดนี้จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่จะทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทำงานฯ และอาจจะมีการเพิ่มนักกฎหมายเข้ามาด้วย เพื่อให้สามารถวางแนวทางการแก้ไขกฎหมายหรือจัดตั้งองค์กรใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องด้วย กำหนดประชุดนัดแรกวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

++++ขณะที่เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ออกแถลงการณ์ ขอขอบคุณนายกฯเพื่อให้บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ จริงใจต่อกัน และเพื่อหาทางออกในการปฏิรูปพลังงานไทยทั้งระบบร่วมกันของทั้งสองฝ่ายให้เป็นไปโดยไม่มีกรอบของเวลาที่ตั้งธงเอาไว้ก่อนล่วงหน้า โดยเครือข่ายจะยื่นเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย นายคณิต ณ นคร ประธาน ได้รับไปศึกษาและพิจารณาแก้ไข ควบคู่ขนานกันไป ในวันนี้ 

+++ส่วนความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนมกราคม 2558 ครอบคลุม 43 ราย ทุกขนาดกิจการและจากทั่วประเทศ พบว่าความเชื่อมั่นอยู่ระดับ 91.1 ลดลงจากเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งอยู่ระดับ 92.7 ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัจจัยความกังวลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อในประเทศ โดยเฉพาะกำลังซื้อในภาคเกษตร รวมทั้งความผันผวนจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน

+++สรุปจำนำข้าวขาดทุน7แสนลบ. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังจากประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ว่า สำหรับผลการปิดบัญชีนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการปี 2547 จนถึง ณ 30 กันยายน 2557  จำนวนทั้งสิ้น 15 โครงการ เบื้องต้นพบผลขาดทุนโดยประมาณ 7 แสนล้าน จาก 4 โครงการในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระยะเวลา 3 ปี ขาดทุน 5.36 แสนล้านบาท และที่เหลือ 11 โครงการ ซึ่งเป็นการดำเนินการตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขาดทุน 1.64 แสนล้านบาท          ส่วนการหารือกับอัยการและกฤษฏีกาเมื่อวันที่ 24กุมภาพันธ์ เพื่อติดตามความเสียหายจากการจำนำข้าว ตามหนังสือของปปช. นั้น เบื้องต้นคณะทำงานยังไม่ได้ข้อสรุป ว่าใครจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ต้องข้อยุติตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาให้ได้

+++การพิจารณาร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ต้องใช้เวลาพิจารณาเพิ่มเติมอีก 2-3 สัปดาห์ คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาประมาณภายในเดือนมีนาคม ขณะนี้ได้รายงานนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว โดยกระทรวงการคลัง จะปรับปรุงอัตราภาษีเพิ่มเติม ระหว่างอัตราเก็บจริงและอัตราเพดานภาษีใหม่ ให้มีช่วงห่างของอัตราภาษีให้ต่ำลงอยู่ที่ 3-4 เท่า จากขณะนี้มีช่วงห่างของอัตราภาษี 8-10 เท่า เพราะต้องการดูแลคนในชนบทพื้นที่ห่างไกล เช่น จ.แม่ฮ่องสอน และพิจารณาถึงความยุติธรรมของรายได้ในต่างจังหวัด อาจไม่มากเท่าพื้นที่ในกรุงเทพฯ รวมถึงจะพิจารณามูลค่าของที่ดิน ที่จะได้รับยกเว้นไม่เสียภาษีใหม่ เช่น การยกเว้นมูลค่าของที่ดินเกษตร มูลค่าของที่ดิน 15-25ไร่ เช่นเดียวกับบ้านที่อยู่อาศัย จะพิจารณามูลค่าบ้านให้ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และในส่วนของที่ดินว่างเปล่า ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องพิจารณาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อ พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีผลบังคับใช้ จะยกเลิก กฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ และกฎหมายภาษีโรงเรือน ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

+++มติศาลฎีกาเลือก "3 รองประธานศาลฎีกา-5 ประธานแผนกคดีในศาลฎีกา-1 ผู้พิพากษาอาวุโสฎีกา" นั่งองค์คณะตัดสินคดีอดีตนายกยิ่งลักษณ์" ปมจำนำข้าว ติดประกาศ 5 วันให้คู่ความพิจารณาคัดค้าน  โดยศาลฎีกาฯ กำหนดนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีหรือไม่ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

+++นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯในขณะนั้น และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ หลังมีการใช้กำลังทหารเพื่อขอคืนพื้นที่ในวันที่ 10 เม.ย.2553 ต่อเนื่องวันที่ 19 พ.ค.25 53 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จากการที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 เป็นผู้มอบนโยบาย ขอคืนพื้นที่ มีมติให้มีหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มาแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันหลังได้รับหนังสือ สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งอื่น ๆ ในฐานะผู้ปฏิบัติจะมีความรับผิดเพียงใดหรือไม่ จะดำเนินการไต่สวนตามข้อเท็จจริงต่อไป รอว่าทางผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจะได้รับบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา จะมาแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้างต่อไป"

+++ตั้งอนุกรรมการสอบ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย มีพฤติการณ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในการจัดซื้อระบบโสตทัศนูปกรณ์ ร่วมกับคณะกรรมการกำหนดราคากลางจากกรมโยธาธิการ จำนวน 5 ราย  กรณีไมค์แพงทำเนียบรัฐบาล  ซึ่งนายมณฑล กล่าวว่าพร้อมชี้แจงตามที่ป.ป.ช.เตรียมจะไต่สวนขอยืนยันว่าที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย ที่เป็นการยกเว้นระเบียบพัสดุ ซึ่งเราก็ทำตามนั้น

+++วันนี้ สนช. จะมีการพิจารณาถอดถอนอดีต ส.ว.38 คน กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว.มิชอบซึ่งจะมีการแถลงเปิดสำนวนถอดถอนในวันที่ 25 ก.พ.นี้ว่า ตัวแทนของป.ป.ช.ที่จะมาแถลงเปิดคดี คือ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.ขณะที่กลุ่มอดีต 38 ส.ว.ที่ถูกกล่าวหาได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแถลงเปิดคดี 4 คน คือ นายวิทยา อินาลาอดีต  ส.ว.นครพนม นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อินาลาอดีต ส.ว.นครพนม นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีตส.ว.อทัยธานนี พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ อดีต ส.ว.มุกดาหาร โดยมีนายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิก สปช.ในฐานะอดีต ส.ว.นนทบุรี เป็นผู้แถลงสรุปข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งคาดว่าการพิจารณาจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง และตั้งคณะกรรมาธิกาซักถาม 9 คนเพื่อดำเนินการรวบรวมคำถามจากสมาชิกจากนั้นจะลงมติถอดถอนได้ในวันที่ 13 มี.ค.

++++ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมรอง ผอ.สศค. ร่วม เสวนา "ร่าง กม.ภาษีทรัพย์สิน... การเปลี่ยนแปลงและผล กระทบ"จัดโดยโครงการนิติเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ เวลา 14.20 น. ที่ ม.ธรรมศาสตร์

+++ ศาลอาญานัดอ่านฎีกาคดีนายบุญพรรณ สุทธิวิริวรรณ กับพวกอีก 2 คน ฆ่านายไมเคิล เออร์วิน วันสเลย์ ชาวออสเตรเลีย หัวหน้าฝ่าย ตรวจสอบบัญชี บริษัท เซ้าท์ สาทร แพลนเนอร์ ขณะนั่งรถยนต์ตู้โตโยต้า ทะเบียน 5ฝ-8231 กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางไปโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย กระสุนถูกศีรษะ และลำตัวเสียชีวิตทันที เนื่องจากผู้ตายตรวจสอบพบการทุจริตของโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ เหตุเกิดบริเวณทางเข้าโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันติดตามจับกุมจำเลยมาดำเนินคดี โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.49 เห็นว่าจำเลยที่ 1, 2 และ 4 กระทำผิดตามฟ้องจริง ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ให้ประหารชีวิต และให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 3 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน  นายบุญพรรณ สุทธิวิริวรรณ นายสมโชค สุทธิวิริวรรณ น้องชาย นายประดิษฐ์ ศิริวิริยะกุล ผู้บริหารโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย และนายสมพงษ์ บัวสกุล หรือพงษ์ ปากพนัง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานจ้างวานฆ่า และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน