นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ แสดงความเชื่อมั่นว่า มาตรการควบคุมโรคของนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน รวมถึงการปิดชายแดนตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ถือเป็นการยกระดับการควบคุมโรคเฝ้าระวังในระดับสูง และรัดกุมพอที่จะสกัดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ชนิด B.1.1.529 ที่ระบาดอยู่ในทวีปแอฟริกา ไม่ให้เข้ามาระบาดในนิวซีแลนด์ นางอาร์เดิร์น กล่าวว่าในการจัดทำแผนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่เชื้อไวรัสจะเกิดการกลายพันธุ์ในอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่นิวซีแลนด์ยังคงยกระดับการเฝ้าระวังในขั้นสูงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
นางอาร์เดิร์นพูดเรื่องนี้ หลังนักข่าวถามว่า การที่ผู้เชี่ยวชาญอังกฤษพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาจะทำให้รัฐบาลนิวซีแลนด์พิจารณาเลื่อนแผนการเปิดประเทศหรือไม่ จากเดิม รัฐบาลนิวซีแลนด์จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนครบโดสแล้วเข้าประเทศตั้งแต่เดือนเมษายนปีหน้า ผู้เชี่ยวชาญหลายคน หวั่นเกรงว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจจะป้องกันเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ใหม่ไม่ได้ผลเต็มที่
นางอาร์เดิร์นไม่ได้ตอบคำถามนี้ตรงๆ แต่ระบุว่านิวซีแลนด์มีแผนสำรองหลายแผน ซึ่งพร้อมจะนำมาใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์ ใช้วิธีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์พื้นที่แพร่ระบาด เช่น เมืองออกแลนด์ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งเร่งกระจายวัคซีนให้คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ นิวซีแลนด์ พบผู้ป่วยรายใหม่ 177 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 10,966 คน เสียชีวิต 42 ราย ร้อยละ 85 ของประชากร 5 ล้านคนรับวัคซีนครบโดสแล้ว
#นิวซีแลนด์
#เฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกา