*นายกฯเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ แก้กม.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ*

หลังการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี ครม. และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ปรารภ ในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามที่จะบริหารราชการแผ่นดินตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด โดยรัฐบาลยืนยันว่า จะพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อความยั่งยืนของประเทศ และทาง คสช. จำเป็นต้องรับทราบการทำงานของรัฐบาล  โดยได้เน้นกำชับการทำงานในทุกส่วน  เช่น คณะทำงานของรัฐบาล  ,คณะขับเคลื่อนของ คสช. ,คณะติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการติดตามผลการปฏิงานของรัฐบาล ,คณะขับเคลื่อนแต่ละกระทรวง ในการประสาน กับคณะขับเคลื่อนต่างๆ  และคณะในระดับพื้นที่บูรณาการระดับจังหวัด  โดยมอบหมายให้พล.อ.ประวิตร  ที่ดูแลคณะขับเคลื่อนของ คสช. เป็นตัวแทนหลัก ในการดำเนินการ โดยที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่มีบางจุดที่ล่าช้า คือ เรื่องงบประมาณ ที่อาจจะมีการติดขัดบ้าง จึงได้เร่งรัดควบคู่กับหน่วยงานในระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานมากขึ้น ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็อยากให้มีการเรียนรู้วิธีการบริหารงานของภาครัฐ เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานที่ทับซ้อนกัน

ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถิติการก่อเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า มีสถิติที่ลดลง แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นยังคงสร้างความเสียหายแก่ชีวิตประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดการแผนงานให้ลงตัวที่สุด และวิธีการจะต้องถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก  นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดระเบียบคลองใน กทม. 9แห่ง โดยเริ่มที่คลองลาดพร้าวเป็นที่แรก พร้อมตั้งกรรมการในการดูแลประชาชนที่มีการสร้างบ้านเรือนรุกล้ำมาในพื้นที่ริมน้ำ  ก่อนจะให้มีการอพยพออกนอกพื้นที่ โดยจะมีการจัดหาที่อยู่ใหม่ให้  ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ของ กทม.ไปดำเนินการทำความสะอาด และจัดระเบียบให้สวยงาม

ส่วนที่ประชุม ครม. มีมติ แก้ไขกฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้แก่ลูกจ้างในการมีอิสระในการออมตามต้องการ  ส่วนนายจ้างจากเดิม ที่จะต้องสมทบทุนการออมของลูกจ้างเท่ากับจำนวนเงินที่ออม จะเปลี่ยนเป็นการกำหนดเพดานในการสมทบทุน  และหากนายจ้างเกิดปัญหาทางการเงินสามารถขอผ่อนผันได้   นอกจากนี้ลูกจ้างที่มีอายุ 55ปีขึ้นไป แต่ยังไม่เกษียณหาก หรือยังไม่พ้นสภาพการทำงานสามารถทยอยเบิกเงินที่ออมไว้นำไปใช้ได้  โดยไม่จำเป็นต้องเบิกออกไปครั้งเดียวทั้งหมด  อีกทั้งเมื่อสิ้นสมาชิกสภาพแล้ว สามารถย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไปยังกองทุนอื่นได้

ครม.เห็นชอบอนุมัติโครงการบริหารจัดการน้ำ 16,000ล้านบาท มาจาก2ส่วน ซึ่งส่วนแรก ครม.ได้อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่18ก.พ.ในวงเงิน7,800ล้านบาท  และในวันนี้เป็นการอนุมัติงบประมานเพิ่มเติมอีก8,400ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการ เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและการป้องกันน้ำท่วมของ กทม. แบ่งเป็นแผนงานที่ต้องทำให้แล้วเสร็จในปี 58 วงเงิน 594 ล้านบาท ส่วนที่เหลือก็ทำเป็นงบประมาณผูกพัน