นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสถานบันเทิงแอบเปิดใจกลางเมืองกรุง ว่า ทุกครั้งที่มีคลัสเตอร์ ทุกครั้งที่มีการระบาดใหญ่ ทุกครั้งที่มีความสูญเสีย มันไม่ได้มาจากการทำกระทำที่ถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตรงนี้เป็นเรื่องสำนึก และสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเร่งไปจัดการให้เรียบร้อย หากผู้คนให้ความร่วมมือเหมือนช่วงนี้ของปีก่อน ประเทศไทยเราไม่มีผู้ติดเชื้อ และตายมาตั้ง 6 เดือน พอมีการผิดกฎหมาย เสี่ยงกฎหมายเมื่อไหร่ ความวิบัติอะไรต่าง ๆ ก็ตามมา รัฐพยายามให้มีมาตรการทุกเรื่องเพื่อความสะดวก แต่ถ้ามีคนทำนอกมาตรการนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายโอกาสต่าง ๆ เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปเพื่อแลกกับความปลอดภัย โดยเราพยายามทำให้ดีที่สุด
ส่วนประเด็นผับบาร์ คาราโอเกะ จะผ่อนคลายอย่างไร หลังผู้ประกอบการเรียกร้องให้เปิดวันที่ 1 ธ.ค. นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ขอให้ดำเนินการมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ให้ผู้ประกอบการฉีดวัคซีนให้พนักงาน ตรวจสอบลูกค้าต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อนเข้าร้าน หากทำกันได้ แสดงให้เห็นว่าทำได้ เราก็พร้อมผ่อนคลาย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีกังวลมาก ทั้งเรื่องความเสี่ยงติดเชื้อ เรื่องทำมาหากิน ท่านสั่งการมาตลอด ซึ่งในวันนี้มีพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ จำนวน 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 โดยจะนำฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปีจำนวน 10 ล้านโดส ภายหลังจากการขึ้นทะเบียนขยายอายุการฉีดกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)แล้ว ส่วนที่เหลือ คาดว่า จะเป็นวัคซีนสูตรใหม่ที่นำมาใช้โดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือ รวมถึงลงนามซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ 5 หมื่นคอร์สรักษาด้วย
การประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 26 พ.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอมาตรการเปิดประเทศระยะที่ 2 หลังจากเดือน ธ.ค.น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายประเทศให้มีความสะดวกมากกว่าขึ้น เช่นการใช้ ATK มากขึ้น เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยไม่ต้องตรวจแบบ RT-PCR แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
#ลักลอบเปิดสถานบันเทิง
#โควิด19