นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะต่อไป การเยียวยาด้วยการโอนเงินเข้ากระเป๋าจะลดลง เพราะเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะต้องเน้นมาตรการสร้างงานเพื่อให้มีรายได้ของตัวเองมากขึ้น และจะต้องกระจายเข้าถึงเป็นรายบุคคล เพราะช่วงโควิด-19 ระบาดพบว่าคนออกจากงานจำนวนมาก เห็นได้จากมีผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับการเยียวยาจากประกันสังคมมาตรา 40 จำนวน 7-8 ล้านคน นอกจากนี้ ไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ หันมาพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ และปรับแรงงานจากภาคบริการสู่ภาคการผลิต รวมถึงหาเครื่องจักรใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเรามีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เตรียมไว้
ด้านนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ใกล้เคียงก่อนโควิด-19 ในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 แต่สิ่งที่น่ากังวลคืออาจเป็นการฟื้นตัวเชิงตัวเลขเท่านั้น เพราะในภาคแรงงานจะมีรายได้ฟื้นตัวช้ากว่าตัวเลขจีดีพี เนื่องจาก การจ้างงานยังอิงกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งแม้ไทยจะเปิดประเทศแล้ว แต่การที่จะทำให้ตัวเลขกลับมา 40 ล้านคนในเวลาสั้นนั้นเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ภาคแรงงานยังมีหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง จึงถือเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไทย และภาครัฐต้องมีมาตรการตรงจุดเข้าไปช่วยเหลือ
....
#คลัง
#สร้างงาน