หวังราคาน้ำมันลดลง! สหรัฐฯและชาติพันธมิตร ประกาศปล่อยน้ำมันสำรองแล้ว

24 พฤศจิกายน 2564, 06:48น.


          กรณีที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศปล่อยน้ำมันดิบในคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) ออกสู่ตลาด พร้อมกับ 4 ชาติในเอเชียที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ เพื่อดึงราคาน้ำมันในตลาดโลกให้ลดลงสู่ระดับที่ต้องการ หลังเจรจาและเตรียมการมานานหลายสัปดาห์


          สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดน  ประกาศว่า กระทรวงพลังงานปล่อยน้ำมันออกจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์จำนวน 50 ล้านบาร์เรล มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อต่อสู้กับราคาพลังงานที่พุ่งสูง ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวซึ่งการเดินทางคับคั่ง


         ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ถูกกดดันอย่างหนัก เพราะราคาน้ำมันหน้าปั๊มพุ่งสูง พร้อมทั้ง ย้ำว่า การปล่อยน้ำมันออกจากคลังครั้งนี้ ไม่สามารถแก้ปัญหาราคาแก๊สสูงภายในชั่วข้ามคืน จะต้องใช้เวลา แต่ไม่นาน น่าจะเห็นราคาแก๊สลดลง เมื่อประชาชนเติมน้ำมัน และในระยะยาว เราจะลดการพึ่งพาน้ำมันลง เพราะเราจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด


         นายไบเดน ยังกล่าวโทษชาติผู้ผลิตน้ำมันว่าเป็นต้นเหตุทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง  เหตุผลส่วนใหญ่ที่ชาวอเมริกันต้องเผชิญราคาแก๊สที่สูงก็เพราะประเทศผู้ผลิตน้ำมันกับบริษัทขนาดใหญ่ไม่ยกระดับการผลิตเร็วให้เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นทั่วโลก


         การตัดสินใจของประธานาธิบดีไบเดน ครั้งนี้ ถือเป็นการปล่อยน้ำมันสำรองจากเอสพีอาร์ครั้งที่ 4 ของสหรัฐฯ ครั้งแรกมีขึ้นระหว่างสงครามอ่าวในปี 1991 ถัดมาเมื่อเกิดวินาศภัยจากเฮอริเคนแคทรีนาในปี 2005 และล่าสุดเป็นการปล่อยน้ำมันสำรองร่วมกันของชาติสมาชิกทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เมื่อเกิดสงครามในลิเบีย ในปี 2011


         การปล่อยน้ำมันสำรองจะมีการประกาศพร้อมๆ กันกับจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งร่วมกับสหรัฐฯ เป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก 5 อันดับแรก 


         การปล่อยน้ำมันสำรองแบบสวอป ไม่ใช่การขายน้ำมันดิบให้กับโรงกลั่นน้ำมันโดยตรง แต่เป็นการ “ให้ยืม” โดยโรงกลั่นสามารถคืนน้ำมันสู่คลังได้ทั้งในรูปของน้ำมันดิบหรือน้ำมันสำเร็จรูป บวกกับส่วนต่างที่ถือเป็น “ดอกเบี้ย”


         รัฐบาลอินเดีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า อินเดียจะระบายน้ำมันดิบจำนวน 5 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรอง ในความร่วมมือกับสหรัฐฯและชาติพันธมิตรเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด


          ขณะที่ นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป คาดว่า ปริมาณรวมจาก 5 ประเทศน่าจะอยู่ระหว่าง 100-120 ล้านบาร์เรลหรือสูงกว่านั้น 


รัฐบาลอังกฤษ แถลงเช่นกันว่า อังกฤษ จะระบายน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล ออกสู่ตลาด ร่วมมือกับสหรัฐฯและชาติพันธมิตรเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด


         น้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลดังกล่าว จะเป็นน้ำมันจากสต็อกของภาคเอกชน และการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างสมัครใจ และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันในคลังสำรองของรัฐบาล ขณะที่ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กำหนดให้รัฐบาลจะต้องมีน้ำมันในคลังสำรองเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศเป็นเวลา 90 วัน


          หลังจากที่หลายชาติประกาศนำน้ำมันสำรองออกมาใช้ 


-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 


-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


 


#ปล่อยน้ำมันสำรอง


#สหรัฐฯ


#ชาติพันธมิตร


 
ข่าวทั้งหมด

X