*สปช. รับหลักการการปฎิรูปให้ชุมชนเข้มแข็ง มีอำนาจบริหารตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น*

การประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือสปช.  ที่มีวาระพิจารณาเรื่องการปฎิรูประบบเพื่อสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งและข้อเสนอการปฎิรูประบบเพื่อเสริมสร้างชุมชมเข้มแข็งที่คณะกรรมาธิการปฎิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสพิจารณาแล้วเสร็จ นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า  ในอดีตประเทศไทยมีระบบการปกครองแบบรวมศูนย์ ทำให้ท้องถิ่นไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการตัวเอง ดังนั้น หลักการการสร้างชุมชนเข้มแข็งที่สำคัญคือ การยึดชุมชนเป็นศูนย์กลาง ตามที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ให้ความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพชุมชนเป็นอย่างมากและจากการศึกษาพบว่า สิ่งที่รัฐต้องเร่งดำเนินการ คือ สนับสนุนให้ท้องถิ่นเกิดประชาธิปไตยทางตรง มีการบริหารการเงิน   การศึกษา และการจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ร่วมกัน และมีอำนาจในจัดการตัวเองมากขึ้น โดยตั้งเป้าให้การปฏิรูปครั้งนี้ ต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วง ด้านสมาชิก สปช. ต่างเห็นด้วยกับหลักการดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนได้ดีขึ้น แต่ก็เห็นว่า ชุมชนท้องถิ่นยังมีความขัดแย้งกันใน 3 ด้าน คือ การเมือง เศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นหากจะดำเนินโครงการใด ๆ ควรให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วม เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยตรง นอกจากนี้ สมาชิกสปช.ยังระบุว่าปัจจุบันได้เกิดชุมชนแบบใหม่ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น ชุมชนออนไลน์ ชุมชนคอนโดมิเนียม จึงต้องมีแนวทางให้ชุมชนนี้มีความเข็มแข็งและมีกลไกที่ดีมากขึ้น และควรกำหนดกลไกเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างเข็มแข็งและยั่งยืน และขอให้รัฐบาลยุติการยึดที่ดิน ทรัพย์สิน และไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ทำกินต่างๆ เพราะประชาชนมีความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 206 เสียง ไม่เห็นด้วย 1เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง เพื่อให้คณะกรรมาธิการนำหลักการดังกล่าวไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอต่อที่ประชุมในอีก 3 เดือนข้างหน้าต่อไป ก่อนปิดการประชุมนาง ทัศนา บุญทอง รองประธานสปช.คนที่ 2 ได้สั่งงดประชุมวันพรุ่งนี้ เนื่องจาก ไม่มีวาระการประชุมด้วย

ธีรวัฒน์ 

CR:แฟ้มภาพ