สปสช.ช่วยผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 6,177 คน เป็นเงินกว่า 621 ล้านบาท

20 พฤศจิกายน 2564, 15:34น.


          สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.ช่วยเหลือเบื้องต้นผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 6,177 คน รวมเป็นเงินกว่า 621 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง จำนวน 4,770 คน โดยพื้นที่เขต 13 กทม. มีผู้ยื่นขอรับการช่วยเหลือมากที่สุด รองลงมาเป็นเขต 1 เชียงใหม่ เขต 10 อุบลราชธานี และเขต 8 อุดรธานี



          นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการรับบริการ โดยมอบให้ สปสช. เป็นหน่วยงานดำเนินการ และได้ออกประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564



          จากข้อมูลล่าสุดในวันนี้ (20 พ.ย. 64) มีประชาชนที่ฉีดวัคซีนและเกิดภาวะไม่พึงประสงค์ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือจำนวน 9,245 คน ส่วนใหญ่เป็นภาวะไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนเข็มแรก จำนวน 5,995 คน หรือร้อยละ 64.85 โดยในจำนวนนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ขอรับการช่วยเหลือ 6,177 คน หรือร้อยละ 66.81 ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 1,400 คน หรือร้อยละ 16.21 และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีก 1,569 คน หรือร้อยละ 16.97 ในจำนวนนี้มีผู้ที่อุทธรณ์คำร้องขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม 545 คน โดย สปสช.ได้จ่ายเงินช่วยเหลือฯ ไปแล้วทั้งหมด จำนวน 621,896,100 บาท



          แยกข้อมูลแบ่งตามเขตพบว่า เขต 13 กทม. มีการยื่นคำร้องมากที่สุด จำนวน 1,703 คน รองลงมาอีก 3 เขต เป็นเขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 1,146 คน เขต 10 อุบลราชธานี จำนวน 1,047 คน และเขต 8 อุดรธานี จำนวน 704 คน



          เมื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมผู้ที่ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง จำนวน 4,259 ราย หรือร้อยละ 46.07



ผู้มีสิทธิประกันสังคม จำนวน 2,564 ราย หรือร้อยละ 27.73 ราย



ผู้มีสิทธิสวัสดิการข้าราชการ จำนวน 2,175 ราย หรือร้อยละ 23.53



นอกนั้นเป็นผู้มีสิทธิรักษาพยาบาลอื่นๆ



          อาการผู้ที่มีภาวะไม่พึงประสงค์ อาทิ มีไข้, ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน, มีผื่น คัน บวม, ปวดเวียนศีรษะ หน้ามืด, แน่นหน้าอก หายใจลำบาก, อาการชา, แขนขาอ่อนแรง, ภาวะแพ้รุนแรง (Phylaxis Shock) และเสียชีวิต



          ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง เข้าหลักเกณฑ์ระดับ 1 อาการเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท จำนวน 4,770 ราย ขณะที่ในระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 24,000 บาท มี จำนวน 118 คน และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 400,000 บาท จำนวน 1,296 คน



          ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ใน 3 จุด คือ ที่หน่วยบริการที่ไปรับการฉีด ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือที่ สปสช.เขตพื้นที่ทั้ง 13 สาขาเขต มีระยะเวลายื่นคำร้องภายใน 2 ปี นับจากวันที่เกิดความเสียหายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งหลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขตซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย





...



#สปสช



#วัคซีนโควิด19



#เยียวยาแพ้วัคซีนโควิด

ข่าวทั้งหมด

X