ออสเตรียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้านคน

          รัฐบาลออสเตรียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่ในช่วง 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,809 คน มากที่สุดตั้งแต่ปี 2563 ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,027,274 คน

          นายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ ชาลเลนเบิร์ก ออกประกาศบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ (22 พ.ย.) บังคับใช้ในระยะแรก 10 วัน ไม่เกิน 20 วัน โดยจะมีการประเมินมาตรการอีกครั้ง

          ออสเตรียใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 4 แล้ว นับตั้งแต่มีสถานการณ์โรคระบาด และเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ได้ออกมาตรการที่เป็นการควบคุมเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ห้ามออกจากบ้านมิเช่นนั้นจะถูกปรับเป็นเงิน 500 ยูโร (ประมาณ 20,000 บาท)

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของยุโรป รายงานว่า ชาวออสเตรียร้อยละ 64.1 ฉีดวัคซีนครบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ประกาศให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นมาตรการที่จำเป็น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า เพราะการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนเป็นวิธีเดียวที่จะออกจากวงจรโรคระบาดและมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งเขากล่าวด้วยว่า ชาวออสเตรียจำนวนมากฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากมีผู้ที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือจำนวนมากเกินไป และเขาไม่พอใจการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน หรือสนับสนุนวิธีการรักษาโรคโควิด-19 ในทางที่ผิด ซึ่งเขาระบุว่า กลุ่มการเมืองบางกลุ่มไม่มีความรับผิดชอบ ฉวยโอกาสจากการที่มีโรคระบาด สร้างความแตกแยกในสังคม และไม่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน

....

#ออสเตรีย

#ล็อกดาวน์