กรณีอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนท้ายรถบรรทุกมีผู้เสียชีวิต บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ฝั่งขาเข้าจากบางนา เลยด่านท่าเรือประมาณ 1 กิโลเมตร แขวงและเขตคลองเตย กทม.เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันนี้ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางเดินรถฝั่งซ้ายสุด ก่อนถึงทางแยกตัววายไปดาวคะนองและดินแดง ประมาณ 300 เมตร โดยบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งสัญญาณไฟ เพื่อให้ผู้ใช้รถเบี่ยงเส้นทาง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรอยู่ระหว่างก่อสร้าง ปรับสภาพผิวการจราจร
จากการตรวจสอบพบ รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 1 ขก 8730 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนป้ายบอกสัญญาณการก่อสร้าง ที่วางเตือนเอาไว้ จำนวน 3 ป้าย จนล้มระเนระนาด ก่อนเสียหลักเข้าไปอัดท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 97-1076 กรุงเทพมหานคร ของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงาน จนรถเก๋งเสียหายหนักทำให้ คนขับรถยนต์เสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายฉัตรชัย บ้านมะหิงษ์ หรือ “ฉัตรชัย แฮมิลตัน” อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 6 ต.บ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก
จากการตรวจสอบ ประวัติของ นายฉัตรชัย ผู้ตายพบว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 57 เคยถูกศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายจับคดี ร่วมกับ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ นักธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.นี้ ได้ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้ และถูกนำตัวไปส่งจังหวัดสงขลา ตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน พนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง ทำให้จำเป็นต้องปล่อยตัวไป โดยก่อนปล่อยตัวได้สอบถามว่ามีหมายจับค้างเก่าอื่นหรือไม่เมื่อตำรวจบอกว่าไม่มีทางอัยการไม่มีอำนาจควบคุมตัวจึงปล่อยไป จากนั้นวันที่ 6 พ.ย. ทางเจ้าหน้าที่เพิ่งจะประสานค้นเจอหมายจับศาลปัตตานี เช้าวันที่ 7 พ.ย. รีบขอหมายค้น ตามไปหาตัวที่บ้านพักก็ไร้วี่แววของเสี่ยโจ้ คาดว่าเดินหน้าหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้ว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องรีบออกมาสั่งการด่วนทันควันแยกเป็น 2 ส่วน คือ
1.กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องเสี่ยโจ้ ข้อหาร่วมกันฟอกเงินได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี เป็นผู้พิจารณาทำความเห็นแย้งไปยังอัยการ และ
2.กรณีศาลจังหวัดปัตตานี ส่งหมายจับไปให้แก่ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และ ผกก.สภ.บ้านแหลม แต่ตำรวจกลับไม่พบหมายจับดังกล่าวในระบบฐานข้อมูลนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส), พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จตช. และ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ร่วมกันตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่า มีกรณีเป็นที่สงสัยว่า ข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย หรือมีพฤติการณ์การกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดอาญาให้ ผบช.ภ.9 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันที
#รถชนบนทางด่วน
#สำนวนเสี่ยโจ้หาย
#ค้าน้ำมันเถื่อน