พระพุทธะอิสระ เรียกร้องตรวจสอบทรัพย์สินมส.และวัดพระธรรมกาย

หลังการเข้าพูดคุยกับนาย เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติหรือสปช.ของพระพุทธอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม 

พระพุทธะอิสระ ระบุว่า เป็นการพูดคุยว่าด้วยแนวทางปฎิรูปศาสนาและการจัดตั้งคณะองค์กรใหม่ให้เข้าไปทำงานแทนมหาเถรสมาคม หรือ มส. เพราะเห็นว่า มส.มีการตัดสินคดีที่ล่าช้า และยึดเยื้อ รวมทั้งมีการตัดสินคดีที่ไม่ถูกต้อง เห็นได้จากคดีของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ที่มส.ไม่ได้เรียกพระธัมมชโยมาสอบถาม แต่อาศัยรายงานต่างๆพิจารณาเท่านั้น ซึ่งประธานสปช.ก็มีแนวคิดที่เห็นเด้วยว่าควรมีการปฎิรูปและกำหนดกลไกศาสนาใหม่ โดยการพูดคุยกว่า 1 ชม.ครั้งนี้ ยังพูดถึงการขอให้สปช.ตรวจสอบงบประมาณและเส้นทางเงินของวิทยาลัยสงฆ์ เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชเคยปรารถไว้ว่า วิทยาลัยสงฆ์และธรรมกายมีปัญหาในเรื่องงบประมาณและการสอนหลักธรรมวินัยที่ไม่ชอบธรรม แต่ไม่ได้พูดถึงมติของมส.ในคดีของพระธัมมชโย เพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่และอาจถูกมองว่าเป็นการเลือกปฎิบัติของสปช. ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากสงฆ์และองค์กรของมส. ดังนั้นต้องมีการปฎิรูปองค์กรมส.และจัดตั้งองค์คณะพิทักษ์คุ้มครองพระพุทธศาสนามาทำหน้าที่แทน

ส่วนการออกมาต่อต้านมติของมส.นี้ ยืนยันว่าไม่ขัดต่อกฎอัยการศึก เพราะได้ขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติแล้ว และเชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่คณะสงฆ์ ไม่ได้เป็นการละเมิดอำนาจของมส. เนื่องจากมส.ทำสิ่งที่ขัดต่อหลักธรรมวินัยและพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ เองดังนั้นเป็นสิทธิที่สงฆ์ต้องกระทำเพื่อปกป้องพระธรรมวินัยและหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยต้องการให้กิจการพระพุทธศาสนาไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนควบคู่ไปกับการปฎิรูปประเทศ พระพุทธอิสระ ยังระบุด้วยว่า กำลังร่างคำฟ้องต่อพระธัมมชโยในคดีลักทรัพย์และการอวดอุตริมนุษย์ธรรมในการที่กล่าวว่าสามารถนั่งสมาธิไปคุยกับสตีฟ จ๊อบส์ และถวายภัตตาหารแก่พระพุทธเจ้า พร้อมระบุว่า หลังจากที่ออกมาเคลื่อนไหว มีพระผู้ใหญ่เสนอตำแหน่งระดับสูงในคณะสงฆ์ให้ แต่ได้ตอบปฎิเสธไป 

พระพุทธะอิสระ ยังระบุด้วยว่า ในอดีตพระราชบัญญัติสงฆ์ไม่ได้นำไปปฎิบัติอย่างเท่าเทียม เนื่องจากมส.มีการตัดสินอย่างลำเอียงและเชื่อว่ามีการบริจาคเงินเพื่อให้มส.ช่วยเหลือในด้านต่างๆ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ธรรมกายมีแนวคิดจะจัดตั้งนิกายใหม่และมีผู้ไม่หวังดีพยายามบิดเบือนพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชว่าเป็นพระลิขิตเทียมด้วย ส่วนในวันนี้จะเดินทางต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้นำคดีพระธัมมชโยเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีความมั่นคงทางศาสนาที่สำคัญด้วย

 

...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร