หลังมีกระแสข่าวมาหลายสัปดาห์เรื่องการจับขั้วทางการเมือง ระหว่างทายาททางการเมืองของตระกูลดูเเตร์เตกับตระกูลมาร์กอส ซึ่งมีบทบาทสำคัญทางการเมืองฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางซารา ดูแตร์เต-คาร์ปิโอ อายุ 43 ปี ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ และสว.เฟอร์ดินัน บองบอง มาร์กอส จูเนียร์ อายุ 64 ปี ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินัน มาร์กอส เปิดเผยว่า นางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา เกาะมินดาเนาทางภาคใต้ของประเทศ จะลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งในวันที่ 9 พฤษภาคมปีหน้า ร่วมทีมเดียวกับสว.มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งจะลงสมัครในตำแหน่งประธานาธิบดี
นางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ ประกาศเรื่องนี้ผ่านวิดีโอในวันนี้(17 พฤศจิกายน 2564)ว่า พรรคของเธอตกลงร่วมทำงานทางการเมืองกับนายมาร์กอส จูเนียร์ และลงสมัครรับเลือกตั้งในปีหน้า พร้อมทั้งระบุว่า เธอรู้ดีตั้งแต่แรกว่า การต่อสู้ในทางการเมืองจะใช้เวลานาน และยากลำบาก แต่เธอมั่นใจว่ากลุ่มผู้สนับสนุนจะให้การร่วมมือและช่วยเหลือเธอไปให้ตลอดรอดฝั่ง เพื่อให้ทีมเลือกตั้งของเธอคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งในปีหน้า นับเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศฟิลิปปินส์
ด้านนายมาร์กอส จูเนียร์ ระบุในแถลงการณ์ในทำนองเดียวกันว่าเขาจะทำงานทางการเมืองร่วมกับนางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ ส่งผู้สมัครในทีมเดียวกัน จะทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง
ด้านนักวิเคราะห์ทางการเมืองของฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ มองว่า การจับขั้วทางการเมืองของทั้งสองคนจะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่ายคือ นายมาร์กอส จูเนียร์จะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากจากฐานเสียงเดิมของประธานาธิบดีดูแตร์เต ผู้นำคนปัจจุบัน ในพื้นที่ภาคใต้ ขณะเดียวกัน นางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ จะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากจากฐานเสียงเดิมที่นักการเมืองจากตระกูลมาร์กอสครองมาหลายสิบปีในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า ที่ผ่านมา นางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ มีคะแนนนำคู่แข่งมาตลอดในการสำรวจความเห็นของประชาชนเรื่องผู้สมัครประธานาธิบดีที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งทำการสำรวจโดยสำนักโพลล์ส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์ แต่การที่นางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ ตัดสินใจไม่แข่งขันกับนายมาร์กอส จูเนียร์ โดยตรง ทำให้นายมาร์กอส จูเนียร์ เป็นตัวเก็งขึ้นมาทันที
นอกจากนี้ การที่นายมาร์กอส จูเนียร์ จับมือร่วมทีมกับนางดูแตร์เต-คาร์ปิโอ จะทำให้พวกเขามีโอกาสชนะการเลือกตั้งในปีหน้า เข้ามาบริหารประเทศแทนประธานาธิบดีดูแตร์เต ซึ่งรัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์ ห้ามลงเลือกตั้งสมัยที่สอง ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจของสำนักโพลล์ชื่อ เดอะโซเชียล เวเธอร์ สเตชั่น (Social Weather Station) ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม ชี้ว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ มีคะแนนนำคู่แข่งอื่นๆ เช่น นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน นายฟรานซิสโก โดมาโกโซ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา และนายแมนนี ปาเกียว อดีตนักมวยชื่อดังของฟิลิปปินส์
#ฟิลิปปินส์
#การเลือกตั้งประธานาธิบดี