กรมชลประทานเร่ง ระบายน้ำพื้นที่ภาคใต้ หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง-ระบายน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ

15 พฤศจิกายน 2564, 12:13น.


          สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ หลังมีฝนตกต่อเนื่อง นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานกำชับให้เจ้าหน้าที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยระบายน้ำให้ได้มากที่สุดหลังฝนตกหนักในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ส่วนที่จ.ชุมพร ลุ่มน้ำละแม อ.ทุ่งตะโก อ.สวี ขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนมาก ประมาณ 300-400 มม.ขณะเดียวกัน ยังไม่มีระบบชลประทานที่สมบูรณ์  โดยการแก้ปัญหาระยะยาวได้ศึกษาด้านผลกระทบ พร้อมกับสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย โดยในพื้นที่ จ.ชุมพร มีโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่9 ประตูระบายน้ำท่าแซะ และโครงการต่างๆที่ช่วยหน่วงน้ำไม่ให้น้ำเข้าไปกระทบในตัวเมือง โดยขอให้ทุกโครงการชลประทานติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำโดยใช้ระบบชลประทานในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกันนี้ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกี่ยวกับการคาดการณ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้





          ส่วนการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ได้กำหนดแนวทางการระบายน้ำออกจากทุ่งพื้นที่ลุ่มต่ำทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน  แบ่งเป็น



-สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล ปัจจุบันลุ่มน้ำชี มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ประมาณ 223 ล้าน ลบ. ม. พื้นที่น้ำท่วม 174,366 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และยโสธร ส่วนลุ่มน้ำมูล มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ประมาณ 205 ล้าน ลบ. ม. พื้นที่น้ำท่วม 175,402 ไร่ บริเวณพื้นที่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 104 เครื่อง ช่วยระบายน้ำได้ 82.56 ล้าน ลบ.ม.,เครื่องผลักดันน้ำ 224 เครื่อง ,เครื่องจักรอื่นๆ 310 หน่วย คาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนพ.ย.- ต้น ธ.ค. 64



-พื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้เริ่มระบายน้ำออกตั้งแต่ ต้น ต.ค. 64 เป็นต้นมา ปัจจุบันยังมีน้ำคงเหลือในทุ่ง ประมาณ 1,721.51 ล้าน ลบ.ม. โดยจะคงเหลือน้ำไว้ในทุ่งไว้ประมาณ 460 ล้าน ลบ.ม. หรือความลึกประมาน 30 เซนติเมตร เพื่อเป็นน้ำต้นทุนสำหรับทำนาปรังในช่วงต้นฤดูแล้งนี้ ซึ่งจะต้องระบายน้ำออกจากทุ่งประมาณ 1,261.21 ล้าน ลบ.ม.  ด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำ 892 เครื่อง ระบายน้ำได้ 1,161.50 ล้าน ลบ.ม. เครื่องผลักดันน้ำ 308 เครื่อง และเครื่องจักรอื่นๆ 107 หน่วย คาดว่า จะสามารถระบายน้ำออกจากทุ่งได้ตามเป้าประมาณกลางเดือน ธ.ค. 64  ในส่วนของทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างฝั่งตะวันตก กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมจากเดิมเครื่องสูบน้ำถาวร 235 เครื่อง เพิ่มเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่อีก 59 เครื่อง รวม 294 เครื่อง สูบระบายน้ำได้รวม 52.81 ล้าน ลบ.ม./วัน



          สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เช้าวันนี้(15 พ.ย. 64) ตอนบนมีระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง โดยมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,333 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำด้านท้ายเขื่อนลดลงตามไปด้วย ขณะที่ บริเวณอ.บางไทร ที่เป็นจุดเฝ้าระวังก่อนที่น้ำจะไหลผ่านลงสู่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 1,651 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลงเช่นกัน





-ลุ่มน้ำป่าสัก ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำวันละ 6.94 ล้าน ลบ.ม. หรือ 80.28 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ ลดลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าตลิ่งหมดแล้ว ทั้งนี้ ยังคงควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในเกณฑ์ 85 ลบ.ม./วินาที พร้อมกันนี้ได้ผันน้ำบริเวณเหนือเขื่อนพระรามหกเข้าคลองระพีพัฒน์ 142 ลบ.ม./วินาที



-ลุ่มน้ำท่าจีน ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีนในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี และนครปฐม กรมชลประทาน บริหารจัดการโดยผันน้ำไปยังคลองที่ยังสามารถรับน้ำได้ เช่น ด้านฝั่งตะวันตก ประกอบด้วย คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง(คลอง มอ.) คลองมะขามเฒ่า-กระเสียว(คลอง มก.) ด้านฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย คลองชัยนาท-ป่าสัก ผ่านประตูระบายน้ำ(ปตร.)มโนรมย์ และคลองชัยนาท-อยุธยา รับน้ำผ่าน ปตร.มหาราช เป็นต้น รวมปริมาณน้ำที่ผันเข้าทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก รวม 366 ลบ.ม./วินาที ด้านเขื่อนกระเสียว





           ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 303 ล้าน ลบ.ม. เต็มความจุอ่างฯ ระบายน้ำ 4.59 ลบ.ม./วินาที ได้มอบหมายให้โครงการชลประทานในพื้นที่ร่วมกับสำนักเครื่องจักรกล วางแผน และติดตามผลการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ โดยปัจจุบันได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้ว 77 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 132 เครื่อง ปัจจุบันระดับน้ำที่สถานี T.13 อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีระดับน้ำลดลง 1 ซม. และสถานี T.1 อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีระดับเท่ากับเมื่อวาน



          นอกจากการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำดังกล่าว กรมชลประทาน ยังได้วางแผนเก็บกักน้ำไว้เป็นน้ำต้นทุน เพื่อให้มีน้ำใช้ในกิจกรรมต่างๆ ทั้งเพื่อการเกษตร อุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ และอื่นๆ ได้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ รวมทั้งการสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปีหน้าด้วย



#กรมชลประทาน



#ฝนตกหนักภาคใต้



CR:กรมชลประทาน 

ข่าวทั้งหมด

X