ตำรวจออสเตรียตั้งด่านตรวจ ห้ามคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนออกจากบ้าน เริ่มวันนี้

15 พฤศจิกายน 2564, 11:37น.


          หลังจากออสเตรียเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ของยุโรปในระยะนี้ มีผู้ป่วยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาเฉลี่ยกว่า 800 คนต่อประชากร 100,000 คน ทำให้ออสเตรียยกระดับควบคุมโรคให้เข้มข้นมากขึ้น ตำรวจจะตั้งด่านตรวจตามท้องที่ต่างๆทัั่วประเทศ เพื่อตรวจเอกสารการรับวัคซีนของผู้สัญจรไปมา



          นายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ แชลเลินแบร์ค ของออสเตรีย ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ 10 วัน เริ่มมีผลจากวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2564) ห้ามคนที่ไม่ฉีดวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบโดส ซึ่งมีจำนวนรวม 2 ล้านคนออกจากบ้าน เว้นแต่มีเหตุจำเป็น เช่น ไปทำงานหรือ ไปซื้ออาหารจากร้านค้าในละแวกชุมชน ซึ่งตำรวจที่ตั้งด่านตรวจในท้องที่ต่างๆจะพิจารณาอนุญาตเป็นรายๆไป ระบุว่า รัฐบาลจะใช้บังคับมาตรการนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นมาตรการที่จำเป็นในการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



          สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่มีสิทธิ์รับวัคซีน และคนที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 อยู่ในกลุ่มที่ได้รับยกเว้น สามารถออกจากบ้านได้ตามปกติเช่นเดียวกับคนที่รับวัคซีนครบโดส ก่อนหน้านี้ ออสเตรียไม่อนุญาตให้คนที่ยังไม่รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบโดสเข้าไปยังร้านอาหาร ร้านตัดผม และโรงภาพยนตร์ เพื่อลดการแพร่ระบาด



          ปัจจุบัน ร้อยละ 65 ของประชากร 8.4 ล้านคนของออสเตรียรับวัคซีนครบโดสแล้ว นับเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศในแถบยุโรปตะวันตกที่มีอัตราการกระจายวัคซีนต่ำที่สุด



          ก่อนหน้านี้ ประชาชนหลายร้อยคนประท้วงที่ด้านนอกของทำเนียบรัฐบาลในกรุงเวียนนาเมื่อวานนี้ ชูแผ่นป้ายมีข้อความว่า ร่างกายของพวกเรา พวกเราย่อมมีเสรีภาพจะตัดสินใจได้เองว่าจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน ขณะที่นักวิจารณ์ รวมทั้งพรรคฟรีดอม ปาร์ตี้ ซึ่งเป็นพรรคแนวคิดขวาจัดของออสเตรีย ตั้งคำถามว่าการออกมาตรการเช่นนี้ ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งมองว่าการออกมาตรการเช่นนี้ สร้างความแตกแยกในสังคม แบ่งแยกประชาชนเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่รับวัคซีนกับกลุ่มที่ยังไม่รับวัคซีน



#ออสเตรีย



#ล็อกดาวน์คนที่ยังไม่รับวัคซีนอยู่บ้าน 10 วัน  

ข่าวทั้งหมด

X