นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี กล่าวเรียกร้องให้มี "ความพยายามในระดับชาติ" ในการทำลายการระบาดระลอกที่ 4 ของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเยอรมนีและขอให้ประชาชนออกไปรับการฉีดวัคซีน
เยอรมนี ซึ่งมีประชากรมากที่สุดของสหภาพยุโรป มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 50,196 คน ใน 24 ชั่วโมงจนถึงวันพฤหัสบดี (11 พ.ย.) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีผู้ป่วยมากกว่า 50,000 คนและเมื่อวันเสาร์ (13 พ.ย.) หน่วยงานด้านสุขภาพของสถาบันโรเบิร์ต คอช รายงานว่ามีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 45,081 คน และมีผู้เสียชีวิต 228 รายในช่วง 24 ชั่วโมง
นายกรัฐมนตรี กล่าวในพอตคาสต์รายสัปดาห์ ว่าเธอมีความกังวลเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ของโรคระบาด เยอรมนีเผชิญกับสัปดาห์ที่ยากลำบาก และต้องการความพยายามระดับชาติเพื่อยุติการระบาด หากทุกคนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตระหนักถึงการปกป้องตนเองพร้อมไปกับการดูแลผู้อื่น ก็จะสามารถลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวได้
เยอรมนีมีผู้ป่วยรายใหม่ และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างต่ำคือในระดับร้อยละ 67 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สนับสนุนให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะคือโอกาสที่แท้จริงที่จะทำลายการระบาดระลอกปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลกลางกับภูมิภาคต่างๆ จะมีมาตรการที่สอดคล้องกัน โดยในขณะนี้ โรงพยาบาลบางแห่งในระดับภูมิภาคมีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลแล้วและต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น ที่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ รัฐที่มีผู้ป่วยสะสมจำนวนมาก เช่น แซกโซนี บาวาเรีย และที่กรุงเบอร์ลิน มีการออกข้อจำกัดใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนในการเข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะ
.....
#เยอรมนี
#โควิด19
#ระลอก4
#วัคซีนโควิด