การประเมินทิศทางโควิด-19 หลังจากที่เปิดประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายตามลำดับ กระทรวงสาธารณสุข มอนิเตอร์สถานการณ์อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือไปจนถึงภาคใต้ มีรายงานการติดเชื้อเข้ามาทุกวัน สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้น คือ ยอดผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจลดน้อยลง เช่นเดียวกับ ยอดสูญเสียก็ลดลงเช่นกัน แม้ว่าจะมีการเปิดเมือง คลายล็อกแล้วก็ตาม ส่วนสำคัญมาจากการฉีดวัคซีนได้ตามเป้า วันนี้น่าจะฉีดได้ถึง 83 ล้านโดส การฉีดในปัจจุบัน มีความครอบคลุมมากขึ้น เราให้บริการไปถึงเด็กอายุ 12-17 ปี ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวก็ได้ฉีด มีสูตรวัคซีนหลายชนิด ให้เหมาะสมกับประชากร ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อช่วงที่ลงพื้นที่ภาคใต้ ทราบมาว่าผู้นำชุมชน ช่วยสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ ให้เข้ารับวัคซีน ถือเป็นเรื่องงดงามที่ทุกคนช่วยกัน ขณะที่ อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)ก็รณรงค์กันทุกวัน ทิศทางไปในทางบวก แต่ยอมรับว่ายังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ ยิ่งเมื่อคลายล็อก ก็ต้องคิดเผื่อไว้ ได้สั่งการให้จัดหายา และวัคซีนเข้ามาสต๊อก พร้อมเร่งฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ส่วนยาก็ได้ศึกษาความคืบหน้าจากทีมผู้ผลิตทั่วโลก ตัวไหนดี มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ต้องพิจารณานำเข้ามา เราต้องมีทางเลือกหลายๆ ทาง
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การควบคุมโรคระบาด เราบรรลุสัญญาจัดหาในปริมาณที่มาก แต่เมื่อวัคซีนโควิด-19 มีการพัฒนา ต่อสู้เชื้อกลายพันธุ์ ประเทศไทยต้องไม่หยุดนิ่งเราได้พูดคุยกับทีมวัคซีนเพื่อพิจารณาการนำเข้าวัคซีน GEN 2 กรณีมีการศึกษาและสามารถใช้งานจริงๆได้สำเร็จ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญของไทย ตกลงใช้ได้ ก็พร้อมนำเข้ามา นี่คือการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องตื่นตัวอยู่ตลอด
#กระทรวงสาธารณสุข
#เตรียมนำเข้าวัคซีนเพิ่ม