องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO)เปิดเผยว่า ราคาอาหารทั่วโลก เช่น ข้าว ข้าวสาลี และน้ำมันพืช ในเดือนตุลาคม มีราคาแพงที่สุดในรอบสิบปี หลังทะยานขึ้นกว่าร้อยละ 30 ในปีที่แล้ว โดยเฉพาะราคาข้าวสาลีเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 40 หลังประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น แคนาดา รัสเซียและสหรัฐฯมีผลผลิตตกต่ำกว่าทุกปีในปีนี้
โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น นายปีเตอร์ แบตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการเกษตรจากมหาวิทยาลัยเคอร์ติน ออสเตรเลีย มองว่า มาจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก
สำหรับราคาธัญพืชโดยรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 22 เทียบกับตัวเลขของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าประเภทนมเพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจากต้นทุนของผลิตภัณฑ์นมในปีนี้ขยับขึ้นจากปีก่อนเกือบร้อยละ 16 ส่วนราคาน้ำมันพืชก็ปรับเพิ่มทำสถิติใหม่เช่นกัน เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 ในเดือนตุลาคม เนื่องจากต้นทุนปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง ดอกทานตะวันและน้ำมันพืชที่ได้มาจากผักกาดก้านขาว (rapeseed)มีราคาสูงขึ้น
สำหรับที่ออสเตรเลีย มีเรือสินค้าหลายลำที่พร้อมจะลำเลียงสินค้าเกษตรไปยังตลาดโลก แต่ปัญหาคือ ไม่มีลูกเรือมาทำงานในช่วง 2-3 เดือนมานี้ เนื่องจากหลายรัฐเช่น วิกตอเรีย อยู่ในช่วงการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดขอโรคโควิด-19 เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการขนส่งสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลกน้อยลง ทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น
ด้านน.ส.บริกิต บูซิคเชีย จากมหาวิทยาลัยแมคควอรี ออสเตรเลีย ระบุว่าราคาสินค้าอาหารแพงขึ้นกระทบต่อคนจนมากที่สุด ทั้งอาจจะก่อให้เกิดความตึงเครียดในสังคมและการเมืองในหลายประเทศ
#FAO
#ราคาอาหารแพงขึ้นทั่วโลก