นายกฯ เสนอโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ ต่อผู้นำทั่วโลก

04 พฤศจิกายน 2564, 10:29น.


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ โพสต์ข้อมูลใน Facebook Prayut Chan-o-Cha เรื่องการประชุมในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร โดยระบุว่า คำว่า "โลกกำลังป่วย" ไม่ได้เป็นคำพูดที่เกินจริงเลย ไม่เพียงแต่วิกฤตโควิด-19ที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลกอยู่ในขณะนี้ ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อคนไทย ทุกอาชีพ ทุกวัย นอกจากนี้ "ภาวะโลกร้อน" ก็เป็นอีกภัยเงียบ ที่กำลังส่งเสียงคำราม ดังขึ้นๆ ทุกวัน จนเป็น Code Red ที่ส่งผลต่อความผิดปกติทางธรรมชาติที่เราเห็นได้ชัด



          พร้อมทั้งระบุว่า รู้หรือไม่ว่า หากปล่อยให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเพียง 2 องศาเซลเซียส ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเฉลี่ยทั่วโลก 1.1 เมตร ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงจากน้ำท่วมตามแนวชายฝั่งและการทรุดตัวของดิน โดยมีการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด เป็นลำดับที่ 9 ของโลก ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง พายุรุนแรง ที่ส่งผลต่อพืชผลทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคนด้วย





          ประเทศไทยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานและขนส่งได้จริงคิดเป็นร้อยละ 17.49 จากกรณีปกติ หรือคิดเป็น 64.20 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2 เท่า และเร็วกว่าแผน 1 ปี แต่เราต้องไม่พอใจเพียงเท่านี้





          รัฐบาลจึงเห็นชอบให้มีการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “BCG” โมเดลเศรษฐกิจใหม่ อย่างเต็มกำลัง ซึ่งก็คือแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ให้เป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ นายกฯ ระบุว่า ได้นำเสนอนโยบายนี้ต่อผู้นำทั่วโลกในที่ประชุม COP26  และผลักดันให้เป็นวาระหลักในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้าอีกด้วย นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก เช่น โซลาร์ฟาร์ม ไบโอดีเซล แทนพลังงานจากฟอสซิล ในรูปแบบเดิมที่ก่อให้เกิดมลภาวะ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยแก้วิกฤต climate change เช่น การผลิตและการส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศให้มากขึ้น เป็นต้น



          นายกฯ ย้ำว่า การมาประชุม COP26 เป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อลูกหลานและอนาคตของประเทศไทย หากเราไม่เริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ วันหน้าอาจจะสายเกินไป ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทุกครั้ง จะต้องมีวาระสำคัญเรื่องนโยบายสิ่งแวดล้อม ภารกิจการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและแก้ปัญหาโลกร้อนนี้ ถือว่าเป็นภารกิจต่อเนื่องยาวนาน ที่ทุกคน ทุกภาคส่วนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน



 



#โมเดลเศรษฐกิจใหม่



#นายกฯ



#COP26



CR:ข่าว-ภาพ Facebook Prayut Chan-o-Cha



 



 

ข่าวทั้งหมด

X