ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
-มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25%
-ปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย.64
-ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-ปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดวงเงิน QE สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเฟดจะถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดที่ได้เริ่มใช้เมื่อเดือนมี.ค.63 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนั้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
หุ้นสหรัฐฯ ทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่ หลังเฟดลดระดับกระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(3พ.ย.) ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ หลังเฟดตัดสินใจลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากโควิด-19
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 104.95 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 36,157.58 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 29.92 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,660.57 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 161.98 จุด (1.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,811.58 จุด
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-ราคาทองคำ ปิดตลาดวันพุธ 3 พ.ย.64 ปิดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 25.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,763.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนดีดตัวขึ้นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิก หลังเฟดตัดสินใจลดการเข้าซื้อพันธบัตร
#เฟด
#คงดอกเบี้ย
#หุ้นดาวโจนส์
แฟ้มภาพ