ผลตรวจ ATK เป็นบวก 2,376 คน และยังมีผู้ป่วยหนักใช้เครื่องช่วยหายใจอีก 483 คน

           พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 7,679 คน โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,672 คน และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 7 คน โดยพบผู้ป่วยที่ลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ 4 คน จากกัมพูชา 

          และมีผู้ป่วยจากการตรวจ ATK จำนวน 2,376 คน

มีผู้ป่วยอยู่ในระหว่างการรักษาอยู่จำนวน 97,585 คน เป็นการรักษาอยู่ในรพ.41,972 คน ในรพ.สนาม/HI-CI 55,613 คน ทั้งนี้มีผู้ป่วย  อาการหนัก 2,205 คน มีผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 483 คน

          วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 56 ราย เป็นเพศชาย 28 ราย เพศหญิง 28 ราย

          อยู่ในพื้นที่ กทม. มากที่สุด 7 ราย โดยในภาคใต้เสียชีวิตรวมยังสูงสุดถึง 16 ราย

          ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป 

          ทั้งนี้ในภาพรวมมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงทุกพื้นที่ รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตัวเลขลดลง เหลือเพียง จ.ปัตตานีที่ตัวเลขยังทรงตัว ซึ่งต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเร่งเข้าฉีดวัคซีน และยังพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ ในหลายพื้นที่ สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า ที่อยากให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ จ.เชียงใหม่ เพราะพบการระบาดหลายคลัสเตอร์          

         การติดเชื้อในจ.ยะลา นราธิวาส และ สงขลา ลดลงชัดเจน ส่วน จ. ปัตตานี การติดเชื้อยังทรงๆ ทำให้ต้องมีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว

         นอกจากนี้ วันนี้ยังพบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์หลายคลัสเตอร์ เช่น

-จ.ชลบุรี พบการติดเชื้อเป็นทหารเกณฑ์ 30 คน

-จ.เชียงใหม่ พบการติดเชื้อในแคมป์ก่อสร้าง ศูนย์การสวัสดิการสังคมและผู้สูงอายุ ตรวจหาเชื้อในชุมชน และพบการติดเชื้อในงานศพ

-จ.แม่ฮ่องสอน พบการติดเชื้อในหอพักนักเรียน

-จ.สุรินทร์ ขอนแก่น กรุงเทพมหานคร พบการติดเชื้อในเรือนจำ

-จ.จันทบุรี พบการลักลอบเข้าเมือง 4 คน

         ศบค.ขอให้ประชาชนบังคับใช้มาตรการส่วนบุคคล และฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งเป้าหมายว่า สิ้นเดือนพ.ย.64 นี้จะต้องฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส

         การฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28ก.-2พ.ย.64 กลุ่มผู้สูงอายุ ฉีดไปแล้ว 64.6% กลุ่มโรคเรื้อรัง ฉีดเพิ่มขึ้นเป็น 69.3 % นักเรียน อายุ12-17 ปี ฉีดไปแล้วกว่า 2.5 ล้านคน จากเป้าหมาย 4.5 ล้านคน เท่ากับ 55.4 %

        ศบค.ห่วงเด็กเมื่อกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่และผู้สูงอายุในบ้าน ขอให้หมั่นสังเกตอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ เช่น ไอ มีน้ำมูก อาการไข้ หากสงสัยว่าจะติดเชื้อให้รีบตรวจหาเชื้อด้วยการใช้ชุดตรวจ ATK

...

#โควิด19