นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.64) วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1,538,550 โดส เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วตามกำหนด ซึ่งวัคซีนที่มาถึงล่าสุดนี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักเรียน ผู้ปกครองสามารถแจ้งความประสงค์ให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ตามความสมัครใจ
ภาพรวมวัคซีนไฟเซอร์ตามแผนกระจายวัคซีนของประเทศ
-ขณะนี้ได้ส่งมอบแล้ว 8,000,000 โดส คือ เดือนก.ย.64 จำนวน 2,000,000 โดส และเดือนต.ค.64 อีก 6,000,000 โดส ยังไม่รวมกับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาอีก จำนวน 1.5 ล้านโดส
ขณะนี้มีนักเรียนและนักศึกษาอายุ 12 ปี ขึ้นไป ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า แสดงความประสงค์ในการฉีดวัคซีน ผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 4,300,000 คน (ข้อมูลเมื่อ วันที่ 26 ต.ค.64) ขอยืนยันว่า วัคซีนมีจำนวนเพียงพออย่างแน่นอน เนื่องจากมีการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มนี้จำนวน 5,700,000 โดส แยกเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 4,300,000 โดส และเข็มที่ 2 จำนวน 1,400,000 โดส โดยเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.64 และได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในกลุ่มนักเรียน 12-17 ปี แล้วกว่า 2,000,000 โดส สำหรับผลข้างเคียง พบรายงานการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Myocarditis/Pericarditis) น้อยกว่า 10 คน ทุกคนมีอาการไม่รุนแรงและรักษาหายเป็นปกติเกือบทั้งหมด เกิดขึ้นได้น้อยกว่าในต่างประเทศ
การฉีดวัคซีนเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตและเจ็บป่วยรุนแรงได้ หากรวมกับแนวทางป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มการป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อภายในครอบครัวหรือชุมชน ทำให้การเปิดเรียนมีความปลอดภัย ไม่เกิดการแพร่ระบาดในโรงเรียน
#วัคซีนไฟเซอร์
#ฉีดให้เด็ก
#เตรียมเปิดเรียน
CR:ข่าวกระทรวงสาธารณสุข ,แฟ้มภาพ