องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (PAHO) รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในทวีปอเมริกาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 ปี แต่ยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงวัคซีน นายจาร์บัส บาร์โบซา ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยแพนอเมริกัน เปิดเผยว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทวีปอเมริกามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 800,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 18,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน แต่เตือนว่าทุกคนยังต้องใช้ความระมัดระวัง
แนวโน้มการติดเชื้อที่ลดลงยังสอดคล้องกับความก้าวหน้าในการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วทั้งภูมิภาค แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศจะพบว่ายังมีอีกหลายประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ ทำให้ยังคงมีความเสี่ยงที่จะมีสถานการณ์ของโรคระบาดรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในเกาะที่มีขนาดเล็กที่ยังมีสถิติผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก องค์การอนามัยแพนอเมริกันจึงเตือนให้เกาะเหล่านี้มีความเข้มงวดในมาตรการด้านสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม และการจำกัดการชุมนุมขนาดใหญ่
ส่วนในสหรัฐอเมริกา ทำเนียบขาวสหรัฐฯ รายงานว่า มีชาวอเมริกัน 15 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว และกำลังมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เนื่องจากร้อยละ 69 ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน และกำลังเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี นายเจฟฟ์ เซียนท์ส ผู้ประสานงานด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า บางรัฐได้สั่งซื้อวัคซีนสำหรับนำไปฉีดให้กับเด็กๆ แล้ว
ดร. โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สถิติผู้ป่วยรายใหม่ การรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตลดลงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน โดยเฉลี่ยแล้วสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตวันละ 1,160 ราย แต่การที่ยังมีผู้ป่วยอยู่ในระหว่างการรักษาจำนวนมากจึงต้องมีความระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว
ทั้งนี้ นายบาร์โบซาเปิดเผยด้วยว่า ในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน มีประชาชนเกือบร้อยละ 44 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว แต่หมายถึงการที่ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งยังไม่มีการป้องกัน และความเหลื่อมล้ำของวัคซีนยังคงเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง
ชิลี อุรุกวัย และแคนาดามีความคืบหน้าอย่างมากในการรณรงค์ฉีดวัคซีน ประชากร 3 ใน 4 ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว แต่ในกัวเตมาลา เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ จาเมกา นิการากัว และเฮติ ได้ฉีดวัคซีนน้อยกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด แต่คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งนายบาร์โบซาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้นำของ G20 ซึ่งกำลังประชุมกันที่กรุงโรม ขอให้มีการแบ่งปันวัคซีนมากขึ้น เพราะจะไม่มีประเทศใดปลอดภัยจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 อย่างแท้จริง หากการป้องกันยังไม่มีความเท่าเทียม
...
#ทวีปอเมริกา
#สหรัฐอเมริกา
#วัคซีนโควิด
#วัคซีนบูสเตอร์
#วัคซีนเด็ก