ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 17 จังหวัด

24 ตุลาคม 2564, 12:01น.


          กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมรวม 17 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว



-จากอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 21 – 24 ต.ค.64 ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 1 จังหวัด คือ จังหวัดกาญจนบุรี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ่อพลอย อำเภอท่าม่วง อำเภอหนองปรือ และอำเภอท่ามะกา ระดับน้ำลดลง



-อิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลางประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 ต.ค. 64 ยังคงมีน้ำท่วมใน 6 จังหวัด ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลง



ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอคอนสาร อำเภอบ้านเขว้า อำเภอภูเขียว อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอจัตุรัส รวม 9 ตำบล 32 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 732 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอสีคิ้ว อำเภอพิมาย อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชัย อำเภอคง อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอเมืองยาง อำเภอประทาย และอำเภอโนนไทย รวม 55 ตำบล 270 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,933 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



บุรีรัมย์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนางรอง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวม 10 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



ศรีสะเกษ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขุขันธ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอปรางค์กู่ และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 10 ตำบล 19 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 329 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว



นครปฐม น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอ บางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน รวม 39 ตำบล 265 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,992 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น



สระแก้ว น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



-อิทธิพลพายุ “คมปาซุ” เมื่อวันที่ 15 -17 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี และปราจีนบุรี ระดับน้ำลดลงในทุกพื้นที่


-อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ใน 6 จังหวัด ได้แก่ 



มหาสารคาม น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคามรวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,627 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว



สุพรรณบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 20 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,011 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลลง



สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี รวม 10 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,149 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น



อ่างทอง ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 36 ตำบล 106 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,434 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน และอำเภอบางซ้าย รวม 115 ตำบล 681 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,749 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว



ปทุมธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง



-สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากฝนตกต่อเนื่องและการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ ตั้งแต่วันที่ 18 – 19 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด อุทัยธานี ในภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่ ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ



          สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



....



ภาพและข่าวจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM



#กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย



#น้ำท่วม

ข่าวทั้งหมด

X