การเสวนาเรื่อง "เดินหน้าประเทศไทยเพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยื่น" ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและเครือข่ายภาคประชาชน นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ คณะบุคคล ที่ ยื่นหนังสือขอให้เลื่อนเปิดสัมปทานออกไปก่อน มองว่า การปฎิรูปพลังงานเป็นสิ่งสำคัญในการปฎิรูปประเทศ ธุรกิจพลังงานส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนเป็นจำนวนมาก และมักมีการผูกขาดได้ง่าย ดังนั้นรัฐควรเข้ามามีบทบาทสนับสนุน อีกทั้งธุรกิจพลังงานจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะค่าใช้จ่าย ปัจจุบันแม้ราคาพลังงานจะลดลงมากขึ้น แต่คนไทยกลับต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายจากราคาพลังงานต่างๆมากขึ้น ทำให้ส่วนตัวมองว่าราคาพลังงานในขณะนี้รัฐมีการช่วยเหลือประชาชนได้จริงหรือไม่ ส่วนการจัดหาพลังงานนั้น ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ไปมาก เช่น ภาครัฐและประชาชนมีความรู้มากขึ้น ดังนั้นภาครัฐควรมีความสามารถในด้านพลังงานมากขึ้น อย่างไรก็ดีส่วนตัวมองอีกว่าควรมีการแก้ไขกฎหมายให้ประชาชนมีส่วนร่วม และควรแก้ไขกฎหมายให้รัฐบาลมีทางเลือกในด้านพลังงาน และควรแก้ไขกฎหมายที่มองว่ายังมีช่องว่างอยู่มาก ดังนั้นการเปิดเวทีในครั้งนี้ จะต้องตอบโจทย์การบริหารทรัพยากรธรรม ชาติ ที่มีประสิทธิภาพ มั่นคงและเป็นธรรม
สำหรับการเสวนา แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ตัวแทนภาครัฐ 4 คน เช่น นายคุรุจิต นาคทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน นายมนูญ ศิริวรรณ ส่วนตัวแทนเครือข่ายประชาชน จะนำโดย นาย ธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นางรสนา โตสิตระกูล ในเวทีจะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการให้ความเห็นฝ่ายละ 90 นาทีจนจบ จะไม่ใช่การโต้วาทีถกเถียงกัน ทั้งนี้ฝ่ายประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับ การเดินหน้าสำรวจแหล่งพลังงานของรัฐบาล ผ่านหมายเลขโทร. 1111 ในระหว่างการจัดเวที "เดินหน้าประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืน " ได้ตลอดจนกว่าจะจบการเสวนาในเวลา 15.00น. โดยในวันนี้ทางช่อง 11 จะดำเนินการถ่ายทอดสดจนถึงเวลา 12.00น.ด้วย