จีนล็อกดาวน์บางพื้นที่เพื่อควบคุมโควิด กรุงปักกิ่งเปิดการทดสอบครั้งใหญ่หลังจากพบผู้ป่วย 4 คน

          แนวโน้มการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ของจีน กระตุ้นให้บางพื้นที่ต้องใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง และจัดการทดสอบครั้งใหญ่

          หน่วยงานด้านสุขภาพของจีนเปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดี (21 ต.ค.) จีนมีผู้ติดเชื้อในประเทศ 28 คน เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่พบผู้ติดเชื้อ 13 คนในวันพุธ (20 ต.ค.) ซึ่งเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ในโลก แต่ที่สร้างความกังวลเนื่องจากพบผู้ป่วยในพื้นที่ 6 คนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศ ส่วนใหญ่จะมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ทั้งในมณฑลกานซู่ เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย และมองโกเลียใน ซึ่งไม่มีทรัพยากรด้านสุขภาพมากเท่ากับเมืองใหญ่ ทางการของมณฑลเหล่านี้ได้ประกาศระงับบริการรถโดยสารทางไกล และรถไฟในบางเส้นทาง และปิดสถานที่ท่องเที่ยว และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าวัตถุดิบและถ่านหินจากประเทศเพื่อนบ้าน

          โดยที่มณฑลหนิงเซี่ย มีมาตรการเพิ่มเติมคือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องทำการทดสอบเมื่อเดินทางมาถึง และต้องกักตัวเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อตรวจสุขภาพตามระยะจนครบกำหนดจึงสามารถเดินทางต่อไปได้

          ส่วนทางการกรุงปักกิ่ง มีคำสั่งห้ามประชาชนในเขตฉางผิง ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ ออกจากที่อยู่อาศัย ระงับการเรียนการสอนในโรงเรียน ธุรกิจในละแวกใกล้เคียงปิดทำการ และเร่งทดสอบประชาชนหลายหมื่นคนในพื้นที่ซึ่งพบผู้ป่วย 4 คนในเขตชานเมืองเมื่อวันศุกร์ (22 ต.ค.)

          สื่อของทางการจีนรายงานว่า การระบาดระลอกใหม่นี้ มีความเกี่ยวข้องกับคู่สามี-ภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง ที่เดินทางด้วยเครื่องบินจากเซี่ยงไฮ้ไปยังซีอาน มณฑลกานซู่ และไปยังมองโกเลียใน โดยพบผู้ติดเชื้อหลายสิบคนที่มีความเกี่ยวข้องกับการเดินทางของพวกเขา 

....

#จีน

#โควิด19