*หารือปมธัมชโยวันนี้/สนช.ผ่านร่างกม.อุ้มบุญ/อนุมัติหมายจับป๋าชื่นรุกที่ลำตะคอง *

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.

++++มหาเถรสมาคมนัดประชุมบ่ายวันนี้ กรณีเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย หลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ใช้หลักฐานพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นบรรทัดฐาน ก่อนลงความเห็นให้พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ต้องปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ เมื่อปี 2542 สมเด็จพระสังฆราช ได้มีพระลิขิตเกี่ยวกับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 5 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 “ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไปกลายเป็นสอง มีความเข้าใจความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้ามเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง คือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที”

อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายก็ยังมิได้คืนทรัพย์ทั้งหมดแก่วัด สมเด็จพระสังฆราชจึงมีพระลิขิตฉบับอื่นๆตามมาอีกรวมเป็น 5 ฉบับ ที่ ได้ระบุว่า ได้แจ้งให้เป็นที่เข้าชัดเจนดีทั่วกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าในตำแหน่งผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย สมบูรณ์ดีที่สุดแล้วตามอำนาจ ท่านกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งหลายจะทำอะไรต่อไปตามความต้องการ จะไม่มานั่งฟัง รับรู้ในที่ประชุมวันนี้ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2542”

++++หลังอัยการสูงสุด (อสส.) ทำเรื่องส่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีโครงการรับจำนำข้าว ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอดูทาง อสส.ก่อนว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า อสส.ระบุว่าในเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้เป็นเรื่องการพิจารณาของ คสช. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ทาง อสส.จะทำหนังสือเสนอกลับมาทุกครั้ง ผมก็ถามกลับไปว่าการไปต่างประเทศจะมีผลอะไรหรือไม่ ทาง อสส.ก็จะตอบกลับมาว่าขอร้องให้หยุดไปก่อนในช่วงนี้ ในระหว่างการดำเนินคดีเอกสารก็มีชัดเจน

+++เบื้องต้นนายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา พร้อมด้วยองค์คณะจำนวน 3 คน ได้พิจารณาสำนวนก่อนที่จะนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีหรือไม่ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. ในวันดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดินทางมาศาล ผู้พิพากษาประจำแผนกฯจะเป็นผู้พิจารณาในการขังหรือปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยต่อไปคดนี้ อายุความของคดี 15 ปี นับจากวันที่ได้กระทำตามฟ้อง

++++ส่วนนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว และหนังสือส่งถึงมือกระทรวงการคลังเรียบร้อย ในหนังสือมีการระบุถึงความเสียหายที่อยู่ในสำนวนคือ การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวครั้งที่ 3 ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท และตัวเลขที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่มีนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ที่สรุปความเสียหายล่าสุดประมาณ 6 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ช.ยังมีการเสนอแนะต่อกระทรวงการคลังให้สำรวจโกดังข้าวเพื่อดูข้าวเสื่อมคุณภาพ ดังนั้น ตัวเลขที่กระทรวงการคลังจะเรียกค่าเสียหายอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่ที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเพียงฐานเท่านั้น

+++นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า หนังสือ ป.ป.ช.ที่ส่งมานั้นมีเพียงหน้าเดียวและไม่ได้ระบุถึงเม็ดเงินความเสียหายที่ต้องการให้เรียกร้องชดใช้ สำหรับในแนวทางปฏิบัติเรียกร้องชดเชยค่าเสียหายนั้น สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับที่ ป.ป.ช.ฟ้องร้อง แต่ยอมรับว่าไม่ค่อยเจอกรณีแบบนี้ ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ บางกรณีอาจผิดวินัย ไม่ผิดอาญาหรือแพ่ง หรือผิดอาญา แต่ไม่ผิดวินัยซึ่งมีหลายรูปแบบ

+++พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ รมน. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสร้างความปรองดองว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการไปในหลายพื้นที่แล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนของการประเมินผล "สิ่งที่พบข้อมูลในต่างจังหวัด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในปี 2553 หลังจากประชาชนกลับบ้านไปแล้ว ลองให้ทหารลงไปพูดคุย เขาก็พูดคุยด้วย ไม่ได้เกลียดทหาร เรามีข้อมูลอะไรก็ซักถาม มีอะไรก็ช่วยเหลือ ไม่ได้ทะเลาะ หรือขัดแย้งกันทั้งหมด อาจจะมีบางระดับที่มีความรุนแรง เนื่องจากผลประโยชน์ขัดกัน ก็ต้องไปพูดคุยกัน ชาวบ้านรากหญ้าถือว่าโอเค เขาก็อยากปรองดอง สำหรับแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวที่อยู่ในพื้นที่ เราก็เชิญมาคุยตั้งแต่แรก ไม่ใช่มาคุมขัง แต่เป็นการมาทำความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไร ไม่ได้เป็นการไล่ล่า

+++ส่วนวาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 34 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ สนช.ครั้งที่ 2 โดยนายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิก สนช. ในฐานะรองประธานคณะ กมธ.ได้รายงาน โดยคณะ กมธ.การเมืองเสนอให้มี ส.ส.มาจากเลือกตั้ง โดยใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง และใช้ระบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง ส่วนผู้สมัคร ส.ส.จะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ วาระการดำรงตำแหน่งวาระ 4 ปี โดยห้าม ส.ส.ไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหาร ขณะที่ ส.ว.ให้มีมาจากการสรรหาตามวิชาชีพและกลุ่มอาชีพ ไม่เกิน 100 คน วาระ 6 ปี โดยเป็นได้เพียงวาระเดียว ทั้งนี้ ให้มีคณะกรรมการสรรหาต้องสรรหาขึ้นมาคณะหนึ่ง  ขณะที่คณะ กมธ.กฎหมายเสนอให้มี ส.ส.จำนวน 350 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงแบบแบ่งเขต 250 คน มาจากบัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนการเลือกตั้ง ส.ว.ให้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและการสรรหา

+++ด้านกลุ่มอดีต 38 ส.ว. นำโดยนายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีต ส.ว.นนทบุรี มีการหารือถึงการแถลงเปิดคดีถอดถอนอดีต 38 ส.ว. กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ ตามที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้ สนช.ดำเนินการในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยเป็นการเตรียมความพร้อม คาดการณ์และวิเคราะห์ถึงการแถลงของ ป.ป.ช.

+++ศาลอนุมัติหมายจับ นายบุญธรรม บุญเทพประทาน หรือ ป๋าชื่น กรรมการบริษัท บ้านชุมทอง จำกัด และบริษัทเขาใหญ่เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด และนายเสฏฐวุฒิ หรือติ๊ก เพ็งดิษฐ์ ซึ่งเป็นน้องชายของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในข้อหาหมิ่นประมาท มาตรา 112 หลังจากร่วมกันเป็นนายทุนแอบอ้างเบื้องสูงใช้อุบายหลอกซื้อที่ดินในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง บริเวณเขาหนองเชื่อมและยังเป็นพื้นที่ทับซ้อนของทหารหน่วยรบพิเศษหนองตะกู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากชาวบ้าน ในราคาถูก จากการสืบสวนขยายผล ยังพบว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น เป็นไปได้ว่ามีการใช้นอมินีในการดำเนินการเพื่อกว้านซื้อที่ดินแอบอ้างเบื้องสูงหาประโยชน์ให้ตนเอง ทั้งนี้ที่ดินทั้งหมดจะถูกยึดเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ป่าต่อไปสำหรับผู้ที่หลงซื้อที่ดินของบริษัททั้ง 2 แห่งนี้ ซึ่งมีข้าราชการระดับสูงหลายคน ก็ต้องฟ้องร้องกับบริษัทดังกล่าวเพื่อเรียกค่าเสียหายคืน

+++รวบเจ้าของบริษัทโบรกเกอร์ลวงเหยื่อซื้อประกันภัยรถยนต์คาสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเหยื่อกว่า 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กองปราบฯดำเนินคดี กรณีตั้งคอลเซ็นเตอร์โทร.หลอกเหยื่อให้ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ราคา พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.แถลงข่าวจับกุมนางชญานี มนตรีโชค น.ส.วรรเพ็ญ เลี่ยนเล็ก และ น.ส.ลลนา มนตรีโชค บุตรสาวนางชญานี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด ต. สอบสวนนางชญานี ให้การปฏิเสธอ้างว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.วรรเพ็ญโทรศัพท์ไปติดต่อชักชวนผู้เสียหายทำประกันภัยรถยนต์จริง ส่วนข้อมูลและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายซื้อมาจากเพื่อนที่รู้จักกันอีกทอด โดยไม่ได้คิดจะหลอกลวงผู้เสียหายที่มีอยู่ประมาณ 40-50 คนตามที่ถูกกล่าวหา แต่ขั้นตอนต่างๆอยู่ระหว่างดำเนินการ และเคยเจรจากับลูกค้าชุดแรกแล้วว่าจะคืนเงินประกันให้ แต่ตนกำหนดวันคืนเงินให้ไม่ได้ การเจรจาจึงไม่สำเร็จ ลูกค้าจึงเข้าแจ้งความ วันนี้ตนกับบุตรสาวกำลังจะเดินทางไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อพักผ่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน ไม่ได้คิดหลบหนี แต่ถูกตำรวจตามไปจับกุมเสียก่อน

+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ผ่านวาระ 3ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.ที่ประชุมได้มีข้อยุติไม่ให้คู่สมรสที่ไม่มีสัญชาติไทยทั้งสองฝ่ายห้ามทำการจ้างอุ้มบุญในประเทศไทย ส่วนหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือสัญชาติไทยนั้นก็ให้อนุโลมทำการจ้างอุ้มบุญได้