1 พ.ย.นี้! 17 จังหวัดสีฟ้านำร่องท่องเที่ยว ยัง 'ห้าม' เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ

22 ตุลาคม 2564, 17:38น.


          แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ย้ำเรื่องแนวปฏิบัติ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 36) ที่เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 21 ต.ค.



          สำหรับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548( ฉบับที่ 36) เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลจึงเห็นความจำเป็นว่าจะต้องมีการฟื้นฟูประเทศ เพื่อประโยชน์ในด้านการใช้ชีวิตและด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน  โดยการยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวสีฟ้า ในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งก็คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะมีการยกเลิกเคอร์ฟิว เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้



          โดยในพื้นที่สีฟ้าหรือจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวนี้สามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ไม่เกิน 500 คน แต่ยังห้ามเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่สีฟ้า เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ แม้จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงเวลานี้



           การรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร หรือการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงคนไทยและชาวต่างชาติ กำหนดแบ่งกลุ่มเป็น 3 ประเภทด้วยกัน



-กลุ่มแรก คือการเดินทางเข้าประเทศแบบไม่กักตัว มี 45 ประเทศบวกกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (วัคซีนครบ จำกัดประเทศ ) โดยในส่วนของเข็มที่สองจะต้องมีระยะ 14 วันก่อนการเดินทาง มีการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และมีผลยืนยันเป็นลบ มีประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ต้องมาทางอากาศเท่านั้น รวมถึงต้องมีใบจองที่พัก เป็นต้น รวมถึงต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และสามารถติดตามตัวได้ว่าเดินทางไปที่ไหนอย่างไรด้วย



          "ส่วนคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศไทย หรือชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ไม่ต้องมีเรื่องของประกันที่ครอบคลุม 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนการเดินทางเน้นเดินทางทางอากาศเท่านั้น และในท่าอากาศยานหลักคือสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย อู่ตะเภา และบุรีรัมย์ ซึ่งต้องเป็นการเช่าแบบเหมาลำเท่านั้น" 



-กลุ่มที่สอง การเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (แซนด์บ็อกซ์) เช่นสมุย พังงา กระบี่ เป็นต้น ตามเงื่อนไขที่กำหนด (วัคซีนครบ ไม่จำกัดประเทศ ) ใช้หลักการเดียวกับกลุ่มที่ 1 คือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีการตรวจหาเชื้อโควิด 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มีประกันสุขภาพ และหลักฐานการจองที่พัก มีการตรวจโควิดซ้ำในวันที่ 6 หรือ 7 ก่อนที่จะออกจากแซนด์บ็อกซ์นั้น



-กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ทั้ง 2 ประเภท การเข้าสถานที่กักกันตามที่ราชการกำหนด (วัคซีนไม่ครบ ไม่จำกัดประเทศ) กลุ่มนี้อาจจะยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือฉีดเข็ม 2 ไม่ครบ 14 วันก่อนการเดินทาง รวมทั้งคนที่มาจากประเทศอื่นๆ นอกจาก 45 ประเทศ บวก 1 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะต้องอยู่ในสถานที่กักกันตามที่ราชการกำหนด เช่น SQ, ASQ ของเอกชน หรือสถานกักกันของหน่วยงาน หรือองค์กร (OQ) หรือ กลุ่มที่เข้ามารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล(HQ) ซึ่งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน



#โควิด19เปิดประเทศ



#ยังไม่เปิดผับ

 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X