*สนช. ผ่านวาระ 3 ร่างพรบ.คุ้มครองเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ*

19 กุมภาพันธ์ 2558, 21:26น.


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่มีนาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ล่าสุดที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.  โดยสมาชิกสนช. ต่างระบุว่า ควรเขียนกฎหมายให้รัดกุม และมีการตีความให้ชัดเจน และควรให้เพียงคู่สมรสที่มีสัญชาติไทยทั้งคู่เท่านั้นที่จะทำการอุ้มบุญได้ ส่วนคู่สมรสใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายไม่ได้ถือสัญชาติไทย ไม่มีสิทธิจ้างบุุคคลอื่นอุ้มบุญ



นายแพทย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. ก็ระบุว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของสมาชิก เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมา แต่ควรเว้นไว้ให้กับคู่สมรสที่จดทะเบียนมาแล้วกว่า3ปี ให้ทำการอุ้มบุญได้ เนื่องจากมีคู่สมรสดังกล่าวจำนวนมากต้องการมีบุตรสืบทายาท



ด้านกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า การมีกฎหมายดังกล่าว หากคู่สมรสมิใช่สัญชาติไทย ก็มีสิทธิอุ้มบุญได้ แต่ต้องใช้ผู้อุ้มบุญเป็นชาวต่างชาติ มิใช่คนไทย โดยเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีทางการแพทย์ไทยและไม่ส่งผลต่อปัญหาทางสังคมแน่นอน อย่างไรก็ดีหลังจากการโต้เถียงกันอย่างกว้างขวางในที่สุดที่ประชุมได้มีข้อยุติไม่ให้คู่สมรสที่ไม่มีสัญชาติไทยทั้งสองฝ่ายห้ามทำการจ้างอุ้มบุญในประเทศไทย ส่วนหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือสัญชาติไทยนั้นก็ให้อนุโลมทำการจ้างอุ้มบุญได้



สมาชิกสนช.ยังระบุด้วยว่า  กฎหมายควรมีการคุ้มครองให้ผู้จ้างอุ้มบุญต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แม่อุ้มบุญและเด็กเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง และให้แม่อุ้มบุญมีประสิทธิภาพในการให้น้ำนมเด็ก ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและแม่อุ้มบุญแข็งแรง แต่ก็เป็นห่วงว่าผู้อุ้มบุญอาจมีความรักเด็กและส่งผลให้ไม่ส่งมอบเด็กแก้ผู้จ้างอุ้มบุญได้ โดยกรรมาธิการชี้แจงว่า ผู้จ้างอุ้มบุญจะต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว ภายใน 30 วันนับแต่วันทีมีการคลอดและเด็กอยู่รอดเป็นทารก ส่วนการได้มาซึ่งสัญชาตินั้นก็ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติสัญชาติ ที่มีบัญญัติไว้อยู่แล้ว ซึ่งเด็กจะมีสิทธิรับรู้ว่าผู้ใดคือแม่อุ้มบุญได้ด้วย จากนัันที่ประชุมได้ลงมติวาระ 3 เห็นชอบประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. เป็นกฎหมายด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 160 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง 



ที่ประชุมสนช.ยังให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน 9คนประกอบด้วย  นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ศ.อติ ไทยานันท์ พ.ต.อ.ทิวลิป เครือมา นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ นายพิทยา จินาวัฒน์ นายปริญญา หอมเอนก พล.ท.สมร ศรีทันดร และนายวันชัย รุจนวงศ์  ก่อนปิดการประชุม นาย พรเพชร ได้สั่งงดประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วย  

ข่าวทั้งหมด

X