สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ อนุญาตให้ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "ผสมผสานและจับคู่" (mix and match) หรือ สูตรไขว้ สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งเอฟดีเอได้พิจารณาแล้วว่ามีประโยชน์ แต่มีความเสี่ยงที่จะเป็นการได้รับวัคซีนเกินขนาด วัคซีนเข็มกระตุ้นนี้จึงอาจเป็นวัคซีนใดก็ได้ในกลุ่มวัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหรัฐฯ ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ประกาศฉบับใหม่นี้ ระบุว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นา 2 โดสแล้ว และมีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือมีอายุมากกว่า 18 ปี ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ อาจได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น นอกจากนี้ผู้ใหญ่ทุกคนที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่เป็นแบบโดสเดียวเป็นเวลามากกว่า 2 เดือน ก็มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเช่นกัน
นางจาเน็ต วู้ดค็อก กรรมาธิการของเอฟดีเอ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่สนับสนุนการตัดสินใจนั้นมาจากงานวิจัยที่ได้รับการตรวจสอบโดยเอฟดีเอแล้ว ประกาศฉบับล่าสุดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอฟดีเอต่อสุขภาพของประชาชนในการต่อสู้กับโควิด-19 ในเชิงรุก
นอกจากนี้ยังมีคำเตือนถึงผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ยากจากวัคซีนชนิด mRNA ที่อาจทำให้ผู้ชายที่มีอายุน้อยเกิดภาวะหัวใจอักเสบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ขณะที่วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน มีความเชื่อมโยงกับอาการลิ่มเลือดชนิดร้ายแรงร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นใน 1 หรือ 2 สัปดาห์หลังการได้รับวัคซีน โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการคือสตรีอายุระหว่าง 18 ถึง 49 ปี
....
#สหรัฐอเมริกา
#วัคซีนโควิด
#วัคซีนบูสเตอร์
DSI สรุปสำนวนนอมินีคดีอาคารสตง.ถล่มส่งอัยการ เร่งตามตัวผู้ต้องหาชาวจีนอีก 1 ราย
อุตสาหกรรม สกัดลักลอบนำเข้าขยะอันตรายกว่า 118 ตัน ส่งกลับประเทศต้นทางทันที
รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำสั่งห้ามม.ฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติ
ข่าวทั้งหมด
