นายเจฟฟ์ เซียนต์ส ผู้ประสานงานของทำเนียบขาวสหรัฐฯ คาดว่า สหรัฐฯ จะสามารถเริ่มให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปีได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันอีก 28 ล้านคนมีสิทธิ์ได้รับวัคซีน โดยในขณะนี้สหรัฐฯ มีวัคซีนสำรองมากเพียงพอสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ ซึ่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะมีความร่วมมือกับโรงงาน 25,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงคลินิก โรงพยาบาล ร้านขายยา และโรงเรียนเพื่อให้วัคซีน
ทำเนียบขาว คาดว่า ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือเอฟดีเอ และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือซีดีซี จะอนุญาตให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กในเร็วๆ นี้ เนื่องจากในสัปดาห์หน้า เอฟดีเอจะมีการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นซีดีซีจะมีประชุมในวันที่ 2 ถึง 3 พฤศจิกายน
ไฟเซอร์ระบุในรายงานการทดลองทางคลินิก ว่าเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปีควรได้รับวัคซีน 2 โดสปริมาณ 10 ไมโครกรัม เทียบกับ 30 ไมโครกรัมในกลุ่มอายุที่มากขึ้น โดยให้แต่ละโดสห่างกัน 21 วัน วัคซีนของไฟเซอร์ทำให้เกิดการตอบสนองของการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง มีผลข้างเคียงเหมือนกับกลุ่มอายุ 16 ถึง 25 ปี คืออาการปวดและบวมบริเวณที่ฉีดยา ร่วมกับอาการปวดศีรษะ หนาวสั่น และมีไข้
ทั้งนี้เอฟดีเอ อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับเด็กอายุ 12 ถึง 15 ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้เด็กเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันโรค เพราะแม้ว่าเด็กที่มีอายุน้อยจะมีโอกาสติดเชื้อและมีอาการรุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่พวกเขายังสามารถป่วยและแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้
....
#สหรัฐอเมริกา
#วัคซีนโควิด
#วัคซีนเด็ก