ยกร่างรธน. ปฎฺิรูปการคลัง ดึงคนเข้าสู่ระบบภาษี

19 กุมภาพันธ์ 2558, 17:04น.


การยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา  พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่า วันนี้ยังอยู่ในการพิจารณาในภาค 4 การปฎิรูปและการสร้างความปรองดอง หมวด 2 การปฎิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม โดยมีการพิจารณาในการปฎิรูปด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   การปฎิรูปด้านการเงิน การคลังและภาษีอากร  ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บัญญัติให้มีคณะกรรมการปฎิรูปวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติภายในหนึ่งปีนับแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ เพื่อทำหน้าที่ปฎิรูปและกำหนดยุทธศาสตร์ นอกจากนี้จะบัญญัติให้องค์กรบริหารท้องถิ่น ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น



ส่วนการปฎิรูปด้านเศรษฐกิจ บัญญติให้มีการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลการสหกรณ์ โดยยกระดับสหกรณ์เพื่อออมทรัพย์ให้เป็นสถาบันการเงิน โดยยึดหลักตามเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งจะให้มีหน่วยงานกลางเพื่อทำหน้าที่ขจัดความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน และจะมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อป้องกันการผูกขาดสินค้า รวมทั้งจัดสรรงบประมาณพัฒนาพิเศษเพื่อพัฒนาพื้นที่ยากจนและยกระดับผู้มีรายได้น้อยด้วย



ด้านปฎิรูปการเงิน การคลัง และภาษีอากรบัญญัติให้มีระบบภาษีสองระดับ คือ ระดับชาติและท้องถิ่น โดยจะให้องค์กรบริหารท้องถิ่นมีรายได้ที่จำเป็นแก่การใช้จ่ายของท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการบัญญัติเรื่องใหม่ คือ กำหนดให้บุคคลที่มีรายได้ต้องแสดงรายได้ต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อนำประชาชนทุกคนเข้าสู่ระบบภาษีทั้งหมด โดยจากการสำรวจพบว่ามีเพียง 3 ล้านคนที่ยื่นแบบประเมินภาษีทั้งที่มีบัญชีผู้เสียภาษีกว่า 10 ล้านคน นอกจากนี้ยังจัดให้มีระบบบำนาญแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และบัญญัติให้มีคณะกรรมการปฎิรูปการเงิน การคลัง และภาษีอากรที่เป็นอิสระภายในหนึ่งปีนับแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ เพือทำหน้าที่ปรับปรุงกฎหมายการเงิน การคลัง ให้มีประสิทธิภาพและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจด้วย



ส่วนการปฎิรูปด้านการบริหารราชการแผ่นดิน นาย คำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า ได้มีการพิจารณาเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีองค์กรบริหารพัฒนาภาค เพื่อทำหน้าที่จัดระเบียบและพัฒนางานของภาคตัวเอง โดยรัฐจะต้องเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณและคอยควบคุมดูแลเท่านั้น



 



 ธีรวัฒน์

ข่าวทั้งหมด

X