นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ชี้แจงเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า สามารถฉีดได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ คือไม่ถึงสิ้นเดือนต.ค.64 สามารถฉีดได้เกิน 50% แล้ว การฉีดวัคซีนเข็มแรกรวม 52.9% เข็มที่ 2 สะสม 36.8% เข็มที่ 3 สะสม 2.7% แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแวค 22 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 29 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 11 ล้านโดส และ ไฟเซอร์ 3.5 ล้านโดส หากเราฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมจะช่วยสร้างความมั่นใจที่จะทำให้เราสามารถเปิดประเทศได้
ส่วนการติดเชื้อในระดับที่สูงและมีแนวโน้มไม่ลดลง คือ พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ภาพรวมการติดเชื้อในประเทศ ถ้าคงมาตรการได้ดี แนวโน้มการติดเชื้อลดลง ขอให้ทุกคนช่วยกันใช้มาตรการส่วนบุคคลอย่างเข้มงวดสูงสุด เนื่องจาก สถานการณ์จริงๆ เจอคลัสเตอร์การติดเชื้อในงานศพ เนื่องจาก การจัดงานในบางพื้นที่ อาจจะละเลยมาตรการเข้มส่วนบุคคล เพราะมองว่าการติดเชื้อในพื้นที่ตัวเองลดลง ขออย่าละเลย ช่วยกันบอกกล่าว ช่วยกันเตือน ถ้าหากไปร่วมงานก็ต้องเลี่ยงการรวมกลุ่ม เล่น การรับประทานอาหารร่วมกัน หรืออาจจะใช้วิธีในรูปแบบอื่นในการแสดงน้ำใจต่อเจ้าของงาน และที่สำคัญยังได้รับข้อมูลมีการเล่นการพนันกันด้วย
นพ.เฉวตสรร ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ฉีดวัคซีนมากกว่าไทย ครบสองเข็มคิดเป็น 81% แต่การติดเชื้อก็มากกว่าไทย สิงคโปร์ก็เปิดประเทศได้ แสดงให้เห็นว่า วัคซีนเป็นมาตรการสำคัญมากในการลดอัตราการป่วยหนักและการเสียชีวิต ขอให้มั่นใจว่า การทำงานประเทศไทยอยู่ในระดับมาตรฐานสากล องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง ขอเชิญชวนคนที่ลังเลใจมาฉีดวัคซีน
#วัคซีนโควิด19
#คลัสเตอร์งานศพ
แฟ้มภาพ