*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

+++นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการยื่นสำนวนฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้รัฐเสียหายต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  นายชุติชัย สาขากรอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานและรองหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ได้เป็นตัวแทนของ นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด(อสส.) จะเดินทางไปยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาฯ ช่วง 10.00 น. โดยหลังยื่นฟ้องคดีแล้วในเวลา 10.45 น. อสส.จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับยื่นสำนวนฟ้องในคดีนี้อีกด้วย จากการหารือกันของทีมทนายและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ข้อสรุปว่าอดีตนายกฯ จะไม่เดินทางไปรายงานตัวที่อสส. ไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี กฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่าต้องไป เพราะเป็นเพียงวันนำตัวไปส่งฟ้อง กฎหมายไม่ได้ระบุว่าต้องเดินทางไปรายงานตัว

+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)แล้ว ได้สั่งการไปยังนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง จัดทำแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงการคลังแล้ว แต่ยังไม่ตอบกลับมา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงการคลังหน่วยงานเดียว มีหลายหน่วยงานรวมถึงกระทรวงพาณิชย์ต้องมาช่วยพิจารณาด้วย ขอเวลา 2-3 วันหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้มอบหมายให้นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย

+++ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือจาก ป.ป.ช. เรื่องความเสียหายคงต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะล่าสุดมีการปิดบัญชีข้าวจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่ 6.82 แสนล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าว 15 โครงการ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 หากแยกเฉพาะของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีโครงการจำนำข้าว 4 โครงการขาดทุน 5.18 แสนล้านบาท ส่วนอีก 11 โครงการขาดทุน 1.63 แสนล้านบาท เป็นโครงการตั้งแต่ปี 2547-2554

+++อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว นัดประชุมเพื่อสรุปผลการปิดบัญชีข้าวในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เป็นการปิดบัญชีจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 เพื่อให้สอดคล้องกับปีงบประมาณ ในการปิดบัญชีครั้งนี้จะนำผลการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงผลการตรวจสต๊อกข้าวและคุณภาพข้าวของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มาร่วมคำนวณด้วย  การประเมินความเสียหายนั้นคงต้องนำข้าวในสต๊อกที่มีอยู่ 17 ล้านตันมาประเมินด้วย ขณะนี้ยังประเมินลำบาก เพราะคุณภาพข้าวในแต่ละโกดังแตกต่างกันมาก กระทรวงการคลัง ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นหน่วยงานใด อาจจะเป็น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ หรืออาจจะเป็นการตั้งคณะทำงานร่วมกัน คาดว่าเร็วสุดจะสรุปสัปดาห์หน้า

+++ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) วันนี้จะพิจารณารายละเอียดการรับซื้อยางจากเกษตรกร 26,742 ราย และองค์กรเกษตรกร 1,028 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติให้องค์การสวนยางกู้เงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส. ) วงเงิน 6,000 ล้านบาท จากวงเงินกู้ทั้งหมด 20,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อยางแผ่นดิบและแผ่นดิบรมควัน วงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.)เป็นผู้รับซื้อจนกว่าจะปิดกรีด ส่วนวงเงินอีก 2,000 ล้านบาท อ.ส.ย.จะนำไปซื้อน้ำยางสดและยางก้อนถ้วยจากเกษตรกรเพื่อพยุงราคาให้สูงขึ้น  โดยราคาเป้าหมายสำหรับฤดูเปิดกรีดหน้าในระยะเวลาอีกประมาณ 3 เดือน มีเป้าหมายว่ายางแผ่นดิบจะอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 65 บาท/กิโลกรัม และน้ำยางดิบ อยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนรายละเอียดและวิธีดำเนินการจะนำเข้าหารือในที่ประชุมกนย.

+++การพิจารณาถอดถอนอดีต 38 ส.ว. กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบตามที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้ สนช.ดำเนินการ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวว่า สนช.นัดประชุมกันในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณากระบวนการถอดถอนนัดแรก เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดสำนวน รวมทั้งการพิจารณาขออนุญาตยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมของผู้ถูกกล่าวหา

+++ส่วนการประชุม สนช.วันนี้ คณะกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) จะรายงานความคืบหน้าการยกร่างรัฐธรรมนูญให้ที่ประชุมรับทราบเป็นครั้งที่สอง กมธ.ดังกล่าวจะขอเพิ่มภารกิจ ให้มีหน้าที่ติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย ไม่ใช่แค่การรวบรวมความเห็นเท่านั้น และขอขยายเวลาการทำงานออกไปอีก 90 วัน โดยเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีไม่เกิน 400 มาตรา เขียนเนื้อหาให้สั้น ส่วนรายละเอียดให้ไปกำหนดในกฎหมาย ลูกแทน

+++ขณะเดียวกันที่ประชุมสนช. จะหารือเรื่องด่วนเรื่องที่ น.ส.จินตนันท์ ชญาตร์ ศุภมิตร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมการมูลนิธิพิทักษ์และคุ้มครองเด็ก เรียกร้องให้แก้ไขพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยเรื่องสื่อลามกอนาจารในเด็ก และคุ้มครองเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ให้เพิ่มนิยามสื่อลามกอนาจารเด็ก และการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นความผิดทางกฎหมาย มีบทลงโทษ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กในระดับโลก

+++คดีสำคัญที่ตามกันต่อเนื่อง พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจตัดประเด็นไฟฟ้าลัดวงจร กรณีเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่แล้ว เนื่องจากไม่ พบความผิดปกติของระบบไฟ แต่ค่อนข้างให้น้ำหนักไปที่เรื่องความผิดพลาดของการ ฉีดพ่นยุง อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดจากความประมาทของพนักงานฉีดยุงหรือเครื่องฉีดพ่นยุงหรือไม่ แต่ยังไม่ตัดประเด็นการ วางเพลิงทิ้ง ต้องรอผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน  

+++ส่วนความคืบหน้าคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) อยู่ระหว่างการตรวจลายเซ็นผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินประมาณ 300-400 รายชื่อ เพื่อยืนยันเวลาในการเบิกจ่ายเงิน จะทำให้สามารถตรวจสอบการใช้เงินว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่

+++ในที่สุด ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่นางไสว ภู่สุวรรณ พร้อมพวกรวม 7 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท สุภัทรา จำกัด , บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา , กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า เป็นจำเลยที่ 1-4 เรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุโบ๊ะท่าเรือพรานนกล่ม เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2538 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 29 ศพ และบาดเจ็บจำนวนมาก หลังเรือด่วนเข้าเทียบท่าเรือ โป๊ะเกิดล่มจนทำให้ผู้โดยสารที่ยืนรอร่วม 100 ชีวิต ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา  อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 2 ได้ชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้เสียหาย จนมีการถอนฟ้อง เหลือเพียงกรุงเทพมหานคร ที่ต่อสู้คดีมาจนถึงชั้นศาลฎีกา   โดยวันนี้ ศาลจึงมีคำพิพากษา ให้กรุงเทพมหานคร ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายจำนวน 14 ราย มากน้อยไปตามลำดับความหนักเบา รายละ 2-3 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เป็นระยะเกือบ 20 ปี รวมเงินที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินนับร้อยล้านบาท   

+++กรณีที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว PaisalPuechmongkol เปิดเผยถึงการประชุมของคณะกรรมาธิการการศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อวันที่ 17 ก.พ. โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานว่า ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้าชี้แจงในที่ประชุมว่าตามลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมีพระลิขิตลงวันที่ 26 เมษายน 2542 นั้น ชี้ชัดว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิกพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ  นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า พศ. ไม่ได้ชี้ชัดว่า พระเทพญาณมหามุนี อาบัติปาราชิกหรือไม่ เนื่องจากเอกสารพระลิขิตเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคม (มส.) ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องของพระลิขิตโดยในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุม มส. ซึ่งในเบื้องต้น ทราบว่ามส.จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมอบหมายให้พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิรวมถึงนักกฎหมาย พิจารณากรณีของพระลิขิตที่เกิดขึ้นในปี 2542 อีกครั้ง เพื่อทำให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมอีกครั้ง

+++พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมือง จ.ชุมพร เปิดเผยความคืบหน้าคดี ส.ต.ท.นรภัทร์ เพชราภรณ์ อายุ 45 ปี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร ใช้ปืน 11 มม.จ่อยิง น.ส.ภาดา ยังสถิตย์ อายุ 38 ปี รองปลัด อบต.สวนแตง ในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาชุมพร หลังสอบปากคำเสร็จ ได้คุมตัว ส.ต.ท. นรภัทร์ไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยชั้นพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ

CR:แฟ้มภาพ