นักวิทยาศาสตร์องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เปิดเผยในเอกสารจำนวน 45 หน้า ว่า ตามที่บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ขออนุญาตฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็นกรณีฉุกเฉินว่า วัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 2 โดสเดิมมีประสิทธิภาพสูงเพียงพอในการยังคงป้องกันโรคได้ ยังไม่เข้าข่ายที่จะต้องฉีดกระตุนเข็มที่ 3 เป็นกรณีฉุกเฉิน
ข้อมูลสำหรับวัคซีนโมเดอร์นา แสดงว่า เข็มกระตุ้นสามารถเพิ่มแอนติบอดี้ที่ป้องกันได้ แต่ความแตกต่างในระดับแอนติบอดี้ก่อนและหลังการฉีดไม่ต่างกันมากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังคงมีระดับแอนติบอดี้ที่สูงอยู่
การศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนในโลกความเป็นจริงบางส่วน ชี้ว่า ในช่วงเวลาหนึ่งวัคซีนโควิด-19ของบริษัทโมเดอร์นามีประสิทธิภาพลดลงต่อการติดเชื้อแสดงอาการหรือต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ขณะที่การศึกษาอีกหลายส่วนชี้ว่าไม่มีประสิทธิภาพลดลง
CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานข้อมูล ระบุว่า วัคซีนโควิด-19ที่ได้รับอนุญาตหรือได้ไลเซนต์จากสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันโรคโควิด-19ในระยะวิกฤตและการเสียชีวิตในสหรัฐฯได้ ” อ้างอิงรายงานจาก CNBC สื่อสหรัฐฯ
บริษัทโมเดอร์นา รายงานว่า ไม่พบปัญหาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) หรือ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) ในกลุ่มอาสาสมัครในระยะเวลา 29 วันหลังได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว
ส่วนการพิจารณาวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับบริษัทยาจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หรือ J&J บริษัทยังไม่เปิดเผยเอกสารรายละเอียดเชิงสรุปเกี่ยวกับวัคซีนเข็มกระตุ้น
บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ขอให้ FDA อนุญาตวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับบุคคลที่ได้รับวัคซีนโควิด-19โดสเดียว ห่าง 2 เดือนก่อนหน้า บริษัท กล่าวว่า ข้อมูลชี้ว่าในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง สมควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตั้งแต่ต้น แต่สำหรับในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำกว่านั้นควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นห่างออกไป 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
#วัคซีนโมเดอร์นา
#บูสต์เตอร์โดส
แฟ้มภาพ