นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่าเดือนต.ค. 64 รับวัคซีนเข้ามาบางส่วน เดือนพ.ย.และ ธ.ค.64 อยู่ในแผน ได้รับการส่งมอบในปริมาณตามแผน และเมื่อไทยได้รับวัคซีนมาแต่ละล็อตแต่ละช่วงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพทุกครั้ง ยอดรวมปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีน 127.1 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือกอีกรวม 179.1 ล้านโดส
การเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและมีหลักฐานในการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจและในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวด้วย
การฉีดวัคซีนสะสมในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ตัวเลขวันที่ 28ก.พ.-11ต.ค.64
-ภาพรวมเข็มที่ 1 อยู่ที่ 70% เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 102.8% จ.ภูเก็ต 80% จ.สมุทรปราการ 68.8% ส่วนจังหวัดที่ฉีดวัคซีนต่ำกว่า 50% เช่น จ.อุดรธานี จ. หนองคาย 38% แต่ไม่ต้องห่วงกระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นให้มีการฉีดวัคซีนให้มากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ในส่วนกลุ่ม 608 อยากให้ฉีดถึง 80% สูงกว่าประชาชนทั่วไป บางพื้นที่ฉีดได้ในระดับ50% หลังจากนี้จะมีการเร่งรัดการฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย
ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มเด็กนักเรียนฉีดไปแล้ว 499,046 คน นพ.เฉวตสรร ย้ำว่า เด็กๆอย่าเชื่อข้อมูลในโซเชียลจนทำให้เกิดความวิตกกังวล ขอให้เชื่อถือข้อมูลจากทางการมีนักวิชาการที่สามารถตรวจสอบได้
การฉีดวัคซีนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
-ในกลุ่มประชาชนทั่วไปฉีดไปแล้ว 42.4% กว่า1,500,000 โดส จากประชาชน 3,500,000 คน ส่วนกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดไปแล้วร้อยละ 58 กลุ่มโรคเรื้อรัง ฉีดแล้วร้อยละ 51 มีการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ลงไปในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในพื้นที่พบหลายสายพันธุ์
#วัคซีนโควิด19
#กระทรวงสาธารณสุข