การจุดประทัดและดอกไม้ไฟเพื่อฉลองวันปีใหม่จีนหรือเทศกาลตรุษจีน อาจเป็นประเพณีเก่าแก่อายุหลายพันปี แต่ทางการจีน กำลังขอร้องประชาชนให้จุดประทัดและดอกไม้ไฟให้น้อยลง เนื่องจากหลายเมืองกำลังต่อสู้กับมลพิษในอากาศ นอกจากนี้ เมืองต่างๆหลายสิบแห่งในจีนได้สั่งห้ามเล่นดอกไม้ไฟและประทัดอย่างเด็ดขาดในวันนี้และวันพฤหัสบดี ขณะที่เมืองอื่นได้ลดจำนวนผู้ค้าดอกไม้ไฟที่ได้รับอนุญาต ส่วนที่กรุงปักกิ่ง ประชาชนได้รับข้อความสั้นจากบริษัทผู้ให้บริการทางโทรศัพท์เรียกร้องอย่าจุดดอกไม้ไฟหรือประทัด จีน เป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก ยังคงพึ่งพาการใช้ถ่านหินราวร้อยละ60ของพลังงานที่ผลิตได้ทั้งหมด และเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนให้คำมั่นว่าจะหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในปี 2573
สื่อท้องถิ่นต่างๆย้ำถึงคำเตือนผ่านทางหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ โดยหนังสือพิมพ์ไชนา เดลีของรัฐบาลจีน เตือนว่า ท้องฟ้าสดใสในกรุงปักกิ่ง จะเกิดมลภาวะทางอากาศอย่างรุนแรงในช่วงกลางคืนเนื่องจากการจุดดอกไม้ไฟและประทัดแม้มีคำเตือน แต่พ่อค้าพลุดอกไม้ไฟรายหนึ่งแซ่หยูบอกว่า เขายังคงมีลูกค้าอุดหนุนมากมาย แต่ได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าได้เพียง10 วันเท่านั้นในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนๆที่ขายได้ถึง 20วัน
บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ทั่วประเทศคึกคัก มณฑลกว่างโจว มีการจัดงานแสดงและจำหน่ายดอกไม้นานาชนิดซึ่งมีความเป็นมากว่า 500 ปี พร้อมกับประดับประดาทั่วงานด้วยสัญลักษณ์ปีแพะ เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อว่าดอกไม้จะนำโชคดีมาให้ในช่วงปีใหม่ เช่นเดียวกันกับมณฑลกวางตุ้งที่จัดงานแสดงดอกไม้เช่นกันโดยจัดมาได้เกือบ 100 ปีแล้ว และเน้นดอกไม้ที่มีความหมายมงคล อาทิ กล้วยไม้ฟาแลนด์และดอกเบญจมาศที่มีความหมายถึงความสุขและการกลับมาพบหน้ากันของครอบครัว
ขณะที่มณฑลเจียงซู ก็ได้จัดงานแสดงโคมไฟประจำปี สร้างความคึกคักให้กับช่วงค่ำคืนด้วยโคมไฟแฮนด์เมดหลากสีสัน ที่ได้แรงบันดาลใจจากตำนานและเรื่องเล่าในท้องถิ่น นอกจากนี้ที่สวนสนุก ฮาร์บิ้น โพลาร์แลนด์ ร่วมสร้างบรรยากาศคักคักในเทศกาลตรุษจีนด้วยการจัดให้นกเพนกวิน 6 ตัวสวมเสื้อจีนสีแดงตามแบบสมัยราชวงศ์ถัง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว