นายโดมินิก เพอร์รอตเท็ต มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย เปิดเผยว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ สามารถทำได้ตามเป้าหมายการกระจายวัคซีนในสัปดาห์นี้ คือร้อยละ 70 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์รับวัคซีนครบโดส ประกาศจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์นครซิดนีย์ในวันจันทร์หน้า (11 ตุลาคม 2564) เปิดห้างร้าน และระบบคมนาคม อนุญาตให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หลังล็อกดาวน์ให้ประชาชนอยู่บ้านมากว่า 100 วัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เจ้าของร้านอาหารและสถานที่สาธารณะอื่นๆต่างยินดีกับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และวุ่นอยู่กับการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านพนักงาน และสินค้าในร้านเพื่อเตรียมต้อนรับลูกค้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
แต่นพ.โอมาร์ คอร์ชิด ประธานสมาคมแพทย์ออสเตรเลีย (AMA)แสดงความกังวัลว่า การคลายล็อกดาวน์นครซิดนีย์เร็วเกินไป อาจจะส่งผลให้โรคโควิด-19 กลับมาระบาดอีกระลอกหนึ่ง จะกระทบต่อระบบการดูแลสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะทำให้ชีวิตของประชาชนเสี่ยงอันตรายจากโรคโควิด-19 เช่น มีคนเสียชีวิต หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดอาจจะรุนแรงมากจนกระทั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์อาจจะต้องกลับมาใช้วิธีการล็อกดาวน์นครซิดนีย์อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียต่อสู้กับการระบาดระลอกที่ 3 ของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องประกาศล็อกดาวน์ศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือ นครซิดนีย์ เมืองเมลเบิร์นและกรุงแคนเบอร์รา ปิดห้างร้านหลายพันแห่ง ส่งผลเสียหายต่อภาคธุรกิจของออสเตรเลียค่อนข้างมาก
ในปัจจุบัน ออสเตรเลียมีผู้ป่วยสะสม 122,500 คน เสียชีวิต 1,405 ราย นับว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศ
#ออสเตรเลีย
#คลายล็อกดาวน์ซิดนีย์จันทร์หน้า