ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก โดยนักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากการที่สภาคองเกรสสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้ รวมถึงความคืบหน้าที่ผู้นำสหรัฐและจีนจะหารือกันภายในสิ้นปีนี้
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,990.32 จุด พุ่งขึ้น 461.45 จุด
ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,543.19 จุด เพิ่มขึ้น 576.70
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (7 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ
ก่อนหน้านี้ นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือนธ.ค. คำกล่าวของนายแมคคอนเนลล์ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 18 ต.ค. ก็จะทำให้สหรัฐเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังซึมซับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงในหลักการที่จะจัดการประชุมทางออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนภายในสิ้นปีนี้ การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากการพบปะกันระหว่างนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ และนายหยาง เจียฉือ นักการทูตระดับสูงของจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่สหรัฐพยายามจัดการกับการแข่งขัน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างกัน
ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,634.22 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 59,044 ล้านบาทจากปัจจัยเดียวกัน
ขณะที่ในประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อทรงตัว และยังมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังว่าไทยจะสามารถนำเข้ายารักษาโควิด-19 ตัวใหม่ หรือ ยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) มาวิจัยทางคลินิคได้ภายในเดือนธ.ค.นี้ ก่อนใช้จริงในเดือน ม.ค.65 ทำให้ส่งผลดีต่อการกลับมาเปิดเมืองได้มากขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มแบงก์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโดยตรง และยังเป็นตัวหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีเช้านี้
#หุ้นไทย
#สหรัฐขยายเพดานหนี้
CR:แฟ้มภาพ