สถานการณ์โควิดในรัฐอะแลสกามีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงขึ้น

          ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี รายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 โดยรวมมีผู้ป่วยรายใหม่และผู้เสียชีวิตลดลง แต่รัฐอะแลสกา กำลังมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการติดต่อต่อประชากรสูงที่สุดในประเทศต่อเนื่อง 7 วันแล้ว

          นางคาริสสา เอเตียน ผู้อำนวยการองค์การสาธารณสุขแพนอเมริกัน (Pan American Health Organisation : PAHO) เปิดเผยว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 106,000 คนลดลงร้อยละ 13 จากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่รัฐอะแลสกา มีผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยมากกว่า 6,000 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นรัฐที่มีสถานการณ์โควิดรุนแรงที่สุดของประเทศ ห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิด และแพทย์ต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในการจัดสรรเตียงในโรงพยาบาล

          สื่อท้องถิ่นรายงานว่าการระบาดระลอกใหม่นี้ เกิดจากการแพร่กระจายของโควิดสายพันธุ์เดลตา และอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ ประชากรประมาณร้อยละ 50 ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่ร้อยละ 56 การที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลต่อระบบการรักษาพยาบาลที่จำกัดของรัฐอะแลสกา ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลในแองเคอเรจ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และสถานการณ์ของโรงพยาบาลเข้าสู่ภาวะวิกฤต

          ในขณะเดียวกันทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกามีผู้ป่วยรายใหม่ 1,200,000 คนและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 24,000 รายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่มีเพียงร้อยละ 37 ของผู้คนในละตินอเมริกาและแคริบเบียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมี 7 ประเทศที่ได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด แต่อีกหลายประเทศยังฉีดวัคซีนไม่ถึงร้อยละ 20 ของประชากร 

....

#โควิด19

#อเมริกา