การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ มีวาระเพื่อพิจารณาหลายเรื่อง อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะเสนอขออนุมัติงบกลางเพื่อดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ 2558 (เพิ่มเติม) พร้อมทั้งขอความเห็นชอบแนวทางการดำเนินงาน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย จะเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในระหว่างวันที่ 19-23 ม.ค.2558 พร้อมกับจะแจ้งมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กรณีถอดถอนหรือไม่ถอดถอนบุคคลจากตำแหน่งในกรณีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้ครม.ได้รับทราบด้วย
สำนักงบประมาณจะเสนอมาตรการ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 เพิ่มเติม
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะขอการดำเนินงานสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของภาครัฐ ในการลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน และการลงทะเบียนการใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบบฟรีWi-Fi
ในวันพรุ่งนี้สำนักงานอัยการสูงสุด จะส่งฟ้องคดีรับจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว กล่าวว่าตามหลักกฎหมายแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ศาลฎีกาฯ แต่ต้องรอการตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลฎีกาฯ รับฟ้องและนัดขึ้นศาลนัดแรกจำเป็นต้องไป ถ้าไม่ไปอาจมีผลเสียได้ โดยยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมจะต่อสู้คดี ไม่คิดหลบหนี หรือขอลี้ภัย
ส่วนนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะลงนามในหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ให้เรียกร้องความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และ ส่งสำนวนการไต่สวนไปพร้อมกัน โดยจะแจ้งไปตามคดีอาญาคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพียงคนเดียว จากนั้นกระทรวงการคลัง จะพิจารณาว่ามีบุคคลอื่นใดร่วมอีกหรือไม่ จะได้พิจารณาเพิ่มเติมอีก ส่วนการเรียกร้องค่า เสียหายในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในคดีอาญาของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 รายนั้นเป็นไปตามฐานความผิดในคดีอาญา ส่วนเอกชนกว่า 100 รายที่ยังไม่ได้ชี้มูลความผิดในกรณีนี้นั้นไม่ได้ส่งให้กระทรงการคลัง เพราะทำสำนวนแยกกัน โดยตัวเลขจะประเมินจากคดีระบายข้าวอย่างเดียว ซึ่งเป็นคนละส่วนกับของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ดูภาพรวมทั้งหมด
และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการพิจารณาเพื่อมีมติชี้มูลความผิดคดีถอดถอน 269 อดีตส.ส.แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของส.ว. โดยมิชอบ หากที่ประชุมเห็นชอบจะส่งสำนวนการไต่สวนไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป
ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ซึ่งรัฐบาลยอมเลื่อนการเปิดสัมปทานออกไปจนถึงวันที่ 16 มีนาคม แต่ในวันนี้กลุ่มเครือข่ายประชาชนจะมีการระดมความเห็นเพื่อนำไปเสนอเวทีกลาง ซึ่งรัฐบาลจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้
เมื่อวานนี้ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีตัดสินจำเลยในคดีฟอกเงิน ตามที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) อายุ 58 ปี และพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 7, 60 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาไม่ขอต่อสู้คดี ศาลจึงตัดสินให้พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์จำคุกรวม 20 ปี ส่วนจำเลยคนอื่นๆ จำคุกคนละ 3-10 ปี จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ไว้ 10 ปี ส่วนจำเลยคนอื่นจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน - 5 ปี
โดยเมื่อวันที่ 30 มกราคม ศาลอาญามีคำพิพากษาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อายุ 59 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 โดยพิพากษาจำคุกคนละ 12 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 6 ปี ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท, ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และจัดให้มีการเล่นการพนันบ่อนโคลอนเซ่ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และจำเลยอีก 2 คนฐานร่วมกันกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ อีกคนละ 9 เดือน ขณะนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ รวม 3 คดี รวมโทษจำคุก 16 ปี 9 เดือน
ส่วน พล.ต.ต.โกวิทย์ศาลพิพากษาแล้ว 2 คดี ที่ร่วมกระทำผิดกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และคดีฟอกเงิน รวมจำคุก 11 ปี
*-*